แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้รับโอนที่ดินมีโฉนดไว้โดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว ย่อมมีสิทธิดีกว่าผู้ที่ครอบครองที่ดินนั้นมาโดยปรปักษ์กว่า 10 ปี ถ้ามีผู้รับโอนทางทะเบียนต่อมาเป็นทอด ๆ อีกไม่ถึง 10 ปี นับแต่วันโอนครั้งแรก ผู้รับโอนต่อ ๆ มานี้จะรู้หรือไม่รู้ถึงการครอบครองโดยปรปักษ์ ก็มีสิทธิดีกว่าผู้ครอบครอง
(อ้างฎีกาที่ 1015/2485)
ย่อยาว
คดี ๔ สำนวนศาลพิจารณาพิพากษารวมกันโจทก์ฟ้องมีข้อความอย่างเดียวกันว่า โจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนด ๗๑๓๕ โดยรับซื้อฝากไว้จากนายทรัพย์เมื่อ ๒๘ พ.ค. ๙๔ และเมื่อ ๗ ก.ย.๙๔ นายทรัพย์ได้จดทะเบียนปลดเงื่อนไขการไถ่ถอนการขายฝากต่อเจ้าพนักงานที่ดิน ประมาณ พ.ศ.๒๔๙๕ โจทก์ทราบว่าจำเลย ๔ คดีเข้าทำในที่ดินของโจทก์เป็นตอน ๆ โดยไม่มีสิทธิ ขอให้ขับไล่
จำเลย ๔ สำนวนให้การว่า ได้ครอบครองมาโดยสงบและเปิดเผยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมา กว่า ๑๐ ปี ย่อมได้กรรมสิทธิ์โจทก์ได้กรรมสิทธิ์มาโดยไม่สุจริตในเวลาก่อน และขณะที่โจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์จากนายทรัพย์ โจทก์ได้รู้เห็นหรือควรจะรู้ก่อนว่าจำเลยได้ครอบครองอยู่ในที่ดินนี้ แม้นายทรัพย์ขณะรับโอนกรรมสิทธิ์มาก็รู้เห็นการครอบครองของจำเลยผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์เดิมมิได้เข้าครอบครองทำประโยชน์และได้สละทิ้งไปเกิน ๑๐ ปี แล้ว ย่อมขาดกรรมสิทธิ์โจทก์หรือนายทรัพย์ซึ่งได้รับโอนมาจึงไม่มีสิทธิ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยได้ครอบครองที่ดินรายพิพาทมาเกิน ๑๐ ปีต่างได้กรรมสิทธิ์ แต่มิได้จดทะเบียนสิทธิ จึงยกเป็นข้อต่อสู้โจทก์ผู้ซื้อไว้โดยสุจริตเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนสิทธิไว้ไม่ได้ พิพากษาขับไล่
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เชื่อว่าโจทก์รู้ว่าจำเลยครอบครองมาจนได้กรรมสิทธิ์ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ปรากฎว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทโดยทางปรปักษ์มาเกิน ๑๐ ปี เมื่อสิทธิของจำเลยมิได้จดทะเบียน จะยกเป็นข้อต่อสู้คนภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิไว้ไม่ได้ และคดีนี้เป็นกรณีที่มีการโอนที่ดินและจดทะเบียนสิทธิกันมาหลายต่อหลายทอด จำเลยจะยกการครอบครองขึ้นต่อสู้ผู้รับโอนและจดทะเบียนสิทธิของตนได้ จะพิจารณาการรับโอนของโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับโอนคนสุดท้าย เพียงคนเดียวไม่ได้ ต้องดูระยะเวลาที่ผู้รับโอนคนก่อน ๆ ด้วยว่า หากได้รับโอนมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตแล้ว แม้จำเลยจะได้ครอบครองที่ดินมาก่อนหน้านั้นนานเท่าใด ก็ไม่สามารถจะยกการครอบครองของจำเลยขึ้นใช้ยันกับผู้รับโอนคนก่อน ๆ นั้นได้ และสิทธิครอบครองของจำเลยย่อมยุติลงเพียงนั้น และการที่ผู้รับโอนคนก่อน ๆ ได้รับโอนที่ดินมาถึงวันฟ้องไม่ถึง ๑๐ ปี จำเลยจะยกสิทธิครอบครองมาใช้ยันโจทก์ไม่ได้ แม้นายทรัพย์หรือโจทก์จะรู้หรือไม่รู้จำเลยครอบครองที่รายนี้ ก็ไม่ทำให้จำเลยได้สิทธิด้วยการครอบครอง เพราะตอนหลังครอบครองไม่ถึง ๑๐ ปี และตอนก่อนเป็นอันสูญสิ้นเสียแล้ว พิพากษากลับศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น