แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การฟ้องขอไถ่ถอนการขายฝาก ไม่ต้องนำเงินที่จะไถ่ถอนมาวางศาลก่อน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อ ๑๒ มีนาคม ๒๔๙๖ นายอยู่ สีสุกได้ทำสัญญาขายฝากที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างไว้กับจำเลยเป็นเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท สัญญาไถ่ถอนใน ๒ ปี เมื่อ ๒๔ กรกฎาคม ๒๔๙๖ นายอยู่ สีสุกตาย โจทก์ในฐานะทายาทขอไถ่ถอนคืน จำเลยผัดผ่อนเรื่อยมา ไม่ยอมให้ไถ่ จะครบกำหนดไถ่ถอนการขายฝาก โจทก์จึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยรับไถ่ถอนการขายฝาก
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่เคยนำเงินมาขอไถ่ถอนการขายฝาก บัดนี้ล่วงเลยเวลาการไถ่ถอนแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิจะไถ่ถอนกับฟ้องแย้งว่า เมื่อขายฝากแล้ว นายอยู่ สีสุกได้เช่าที่ดินไปจากจำเลย เมื่อนายอยู่ สีสุกตายแล้ว นางผาดโจทก์ได้เช่าต่อ คิดเป็นเงินค่าเช่า ๙,๓๐๐ บาท ขอให้โจทก์ชำระค่าเช่าที่ค้างพร้อมดอกเบี้ย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า นายอยู่ สีสุก และนางผาดโจทก์ไม่เคยเช่าที่ดินตามฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นฟังว่า แม้โจทก์ฟ้องขอไถ่ถอนการขายฝากในกำหนด แต่โจทก์มิได้วางเงินค่าไถ่ถอนมาพร้อมฟ้อง จะถือว่าโจทก์ใช้สิทธิไถ่ถอนไม่ได้ พิพากษายกฟ้องและให้นางผาดโจทก์ชำระค่าเช่าพร้อมดอกเบี้ย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้โจทก์มีสิทธิไถ่ถอนการขายฝาก นอนนั้นยืน
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การฟ้องขอไถ่ถอนการขายฝาก ไม่จำเป็นจะต้องนำเงินจำนวนที่ต้องไถ่ถอนมาวางต่อศาลก่อน เพราะศาลมีหน้าที่จะรับพิจารณาคดีอยู่เสมอ การชำระเงินแก่กันเป็นเรื่องภายหลังจากการพิจารณา พิพากษายืน