แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
เมื่อจำเลยแถลงรับข้อเท็จจริงไว้ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นว่า จำเลยเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ 280/2531 ของศาลชั้นต้น และเคยต้องโทษในคดีดังกล่าวตามฟ้องจริง ถือได้ว่าจำเลยยอมรับข้อเท็จจริงที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเคยต้องโทษแต่ศาล รอการลงโทษไว้ ศาลจึงบวกโทษจำคุกของจำเลยที่รอการลงโทษไว้เข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้ได้ โดยโจทก์ไม่จำต้องนำพยานหลักฐานเข้าสืบถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวอีก.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 17, 69 และ 97 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2528 มาตรา 4, 6, 10 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58และเพิ่มโทษของจำเลยกับบวกโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่280/2531 ของศาลชั้นต้นเข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้ด้วย
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าจำเลยเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 854/2530 และคดีหมายเลขแดงที่ 280/2531ของศาลชั้นต้น เคยต้องโทษและพ้นโทษในคดีดังกล่าวตามฟ้องจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 69 วรรคแรก จำคุก 6 เดือนเพิ่มโทษกึ่งหนึ่งตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 97 เป็นจำคุก 9 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 เดือน บวกโทษจำคุก6 เดือน ที่ศาลชั้นต้นรอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่280/2531 รวมจำคุก 12 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกาทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและปัญหาข้อกฎหมาย แต่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยเฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยฎีกาปัญหาข้อกฎหมายว่า แม้จำเลยจะยอมรับว่าจำเลยเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นำโทษจำคุกมาบวกกับโทษของจำเลยในคดีนี้ก็เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำพยานหลักฐานเข้าสืบให้เห็นว่า จำเลยได้กระทำความผิดในคดีดังกล่าวจริง จะถือเอาเหตุที่จำเลยยอมรับมาเป็นเหตุบวกโทษจำคุกจำเลยไม่ได้ ปัญหาข้อนี้ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522ตามคำฟ้องของโจทก์อ้างมาด้วยว่า เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2531จำเลยถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 6 เดือน แต่ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ข้อหามียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรากฏตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 280/2531 ของศาลชั้นต้นจำเลยกลับมากระทำผิดในคดีนี้อีกภายในกำหนดเวลาที่ศาลได้รอการลงโทษจำเลยไว้ ขอให้บวกโทษจำคุกจำเลยในคดีที่ศาลได้รอการลงโทษจำเลยเข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้ เมื่อจำเลยแถลงรับข้อเท็จจริงไว้ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้น ฉบับลงวันที่8 ธันวาคม 2531 ว่า จำเลยเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ 280/2531 ของศาลชั้นต้นและเคยต้องโทษในคดีดังกล่าวตามฟ้องจริง จึงถือได้ว่าจำเลยยอมรับข้อเท็จจริงที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเคยต้องโทษแต่ศาลให้รอการลงโทษไว้ ศาลจึงบวกโทษจำคุกของจำเลยที่รอการลงโทษไว้เข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้ได้โดยโจทก์ไม่จำต้องนำพยานหลักฐานเข้าสืบถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวอีก…”
พิพากษายืน.