คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3025/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่2เป็นลูกจ้างประจำสังกัดศูนย์มาลาเรียกองมาลาเรียกรมควบคุมโรคติดต่อกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นส่วนราชการจำเลยที่2จึงมิใช่พนักงานองค์การและหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ.2522มาตรา100ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาโดยปรับบทมาตราดังกล่าวสำหรับจำเลยที่2และศาลอุทธรณ์ไม่แก้ไขมิชอบศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไข

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 100, 102 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91 พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 3, 10 และริบของกลาง
จำเลยทั้งห้าให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15, 66 วรรคสองประกอบมาตรา 100 ลงโทษประหารชีวิต จำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 5ผิดตามมาตรา 15, 66 วรรคสอง ลงโทษประหารชีวิต จำเลยทั้งห้าให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52(1) คนละหนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยทั้งห้าตลอดชีวิตของกลางริบ
จำเลยทั้งห้าอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 3ที่ 4 และที่ 5 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2ร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และร่วมกันจำหน่ายเฮโรอีนดังกล่าวจริงตามฟ้อง แต่ พยานหลักฐานโจทก์เกี่ยวกับจำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ไม่พอฟังลงโทษจำเลยที่ 3 ที่ 4และที่ 5 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 3 ที่ 4และที่ 5 มานั้นชอบแล้ว
อนึ่ง สำหรับจำเลยที่ 2 นั้น จำเลยที่ 2 เป็นลูกจ้างประจำสังกัดศูนย์มาลาเรีย กองมาลาเรีย กรมควบคุมโรคติดต่อกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นส่วนราชการ จำเลยที่ 2 จึงมิใช่พนักงานองค์การและหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 100 ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาโดยปรับบทมาตราดังกล่าวสำหรับจำเลยที่ 2 และศาลอุทธรณ์ไม่แก้ไข มิชอบศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไข
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15, 66 วรรคสอง นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share