คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์และได้ความจากผู้เสียหายว่าจำเลยเป็นน้องผู้เสียหายๆ ได้ให้จำเลยเอาเงินไปเก็บในตู้ซึ่งเป็นที่เก็บเงินและเสื้อผ้า ตู้นี้อยู่ในห้องนอนของผู้เสียหายผู้เสียหายได้มอบกุญแจตู้ให้จำเลยไปด้วย ข้อเท็จจริงดังนี้จะถือว่าผู้เสียหายสละสิทธิการครอบครองเงินนั้นให้แก่จำเลยแล้ว ยังไม่ได้ผู้เสียหายยังมีสิทธิครอบครองเงินนั้นอยู่ รูปคดีอาจเป็นเรื่องลักทรัพย์ไม่ใช่ยักยอก ซึ่งศาลควรฟังพยานโจทก์ต่อไป ไม่ควรสั่งงดสืบพยาน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ 1 ปากแล้วงดสืบพยาน วินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงทางพิจารณาต่างกับฟ้อง พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานแล้วพิพากษาใหม่

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ได้ความจากผู้เสียหายว่า จำเลยเป็นน้องผู้เสียหาย ผู้เสียหายให้จำเลยเอาเงินไปเก็บในตู้ซึ่งเป็นที่เก็บเงินและเสื้อผ้า ตู้นี้อยู่ในห้องนอนของผู้เสียหาย ผู้เสียหายได้มอบลูกกุญแจตู้ให้จำเลยไปด้วย ดังนี้ จะถือว่าผู้เสียหายได้สละสิทธิการครองเงินนั้นให้แก่จำเลยแล้วยังไม่ได้ ผู้เสียหายยังมีสิทธิครอบครองเงินนั้นอยู่ รูปคดีอาจเป็นเรื่องลักทรัพย์ไม่ใช่ยักยอก ควรฟังคำพยานต่อไป

พิพากษายืน

Share