แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่ผู้เสียหายมอบเงินให้จำเลยเพื่อนำไปให้ ส. เป็นการตอบแทนที่ ส. เสนอเรื่องขอซื้อสินค้าของผู้เสียหายต่อผู้บังคับบัญชาจนเป็นผลสำเร็จ เป็นกรณีที่ผู้เสียหายใช้จำเลยนำเงินไปให้แก่ ส.เพื่อจูงใจให้ส. กระทำการอันไม่ชอบด้วยหน้าที่ ถือได้ว่าเป็นการใช้ให้จำเลยไปกระทำความผิด ดังนี้ ผู้เสียหายจึงมิใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ฟ้องว่า ผู้เสียหายได้มอบเงิน 22,800 บาทให้จำเลยเพื่อนำไปบริจาคให้แก่ศูนย์อนามัยแม่และเด็กแต่จำเลยได้ยักยอกเงินจำนวนดังกล่าวไว้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 และให้จำเลยใช้เงินคืน
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณืโดยอธิบดีกรมอัยการรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘พิเคราะห์แล้ว ที่โจทก์ฎีกาว่านางวิสุนีย์ ปราสาททองโอสถ พยานโจทก์ เบิกความฟังได้ว่าเงินจำนวน 22,800 บาท ที่ผู้เสียหายมอบให้จำเลยนำไปมอบให้นายสุธิน วิจักษณานนท์ เภสัชกรประจำศูนย์อนามัยแม่และเด็กจังหวัดยะลา มิใช่เป็นการให้สินบนแก่นายสุธิน หากแต่เพื่อให้นายสุธินนำไปมอบให้แก่ศูนย์อนามัยแม่และเด็กจังหวัดยะลาเป็นเงินบริจาคเพื่อสวัสดิการนั้น เห็นว่า ศูนย์อนามัยแม่และเด็กจังหวัดยะลามีนายแพทย์อนันต์ สุไลมาน เป็นผู้อำนวยการในขณะเกิดเหตุนายสุธินเป็นเพียงเภสัชกรประจำศูนย์ดังกล่าว หากเป็นเงินบริจาคให้ศูนย์ดังกล่าวจริงก็น่าจะทำหนังสือขอบริจาคถึงผู้อำนวยการศูนย์ดังกล่าวเป็นทางการ เพราะผู้อำนายการเป็นผู้บังคับบัญชาของนายสุธินและจะได้ทราบว่าทางผู้อำนายการจะยินดีรับเงินบริจาคไว้หรือไม่ แต่ไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้ทำหนังสือขอบริจาคแต่อย่างใด ข้อเท็จจรงกลับปรากฏว่านายสุธินได้เสนอเรื่องขอซึ่อสินค้าประเททยาของผู้เสียหายต่อผู้อำนายการโดยจำเลยเป็นผู้ติดต่อนายสุธินในฐานะนายสุธินเป็นเภสัชกรประจำศูนย์ดังกล่าวและทางศูยน์ดังกล่าวได้ตกลงซื้อสินค้าประเทภยาของผู้เสียหายเป็นราคาถึง 114,000 บาท และผู้เสียหายจึงได้จัดเงินสดจำนวน 22,800 บาท มอบให้จำเลยนำไปมอบให้นายสุธิน เงินจำนวนดังกล่าวมีเศษเป็นร้อยและไม่ได้จ่ายเป็นเช็คหรือตั๋วแลกเงินเมื่อคิดคำนวณแล้วจะเป็นจำนวน 20เปอร์เซ็นต์ ของราคาสินค้าที่ทางศูนย์ตกลงซื้อจากผู้เสียหายรูปคดีมีเหตุน่าเชื่อว่าเงินสดจำนวน 22,800 บาท เป็นเงินที่ผู้เสียหายมอบให้จำเลยเพื่อนำไปให้นายสุธินเป็นส่วนตัวเป็นการตอบแทนที่นายสุธินเสนอเรื่องขอซื้อสินต้าประเทภยาของผู้เสียหายจนเป็นผลสำเร็จ จึงเป็นเงินที่ผู้เสียหายใช้ให้จำเลยนำไปให้แก่นายสุธินเพื่อจูงใจให้นายสุธินกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ ถือได้ว่าผู้เสียหายใช้ให้จำเลยไปกระทำความผิด ที่โจทก์อ้างว่าการที่ผู้เสียหายมอบเงินให้แก่ในสุธินเพื่อให้นายสุธินเป็นผู้มอบเงินให้แก่ศูนย์อนามัยแม่และเด็กจังหวัดยะละ ก็เพื่อจะให้นายสุธินมีผ,งานมีความดีความชอบในการปฏิบัติหน้าที่ราชการนั้นไม่ปรากฏว่านายสุธนเป็นญาติกับกรรมการของผู้เสียหายที่ผู้เสียหายจะต้องสนับสนุนเช่นนั้น นายสุธินจะมีผลงานดีหรือทำความดีความชอบในหน้าที่ราชการอยู่ที่ความรู้ความสามารถความขยันหมั่นเพียร ความซี่อสัตย์สุจริตของนายสุธิน นอกจากนี้นายสุธินพยานโจทก์ก็มิได้เบิกความถึงว่าพนายได้รับติดต่อจากผู้เสียหายล่วงหน้าที่จะนำเงินจำนวน 22,800 บาท มามอบให้พยานเพื่อนำไปบริจาคให้แก่ศูนย์ดังกล่าว ข้ออ้างของโจทก์ดังกล่าวจึงฟังไม่ขึ้นทั้งยังส่อไปในทางสนับสนุนให้มีการทุจริตประพฤติมิชอบใหหน้าที่ราชการอีกด้วย ผู้เสียหายจึงมิใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย ไม่มีอำนายร้องทุกข์ การสอบสวนของพนักงานสอบสวนเป็นการไม่ชอบ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ได้ ศาลล่างทั้งสองพิพากษาต้องกันมาให้ยกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น’
พิพากษายืน.