แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ห้างจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 หุ้นส่วนผู้จัดการ ทำสัญญารับจ้างก่อสร้างท่อระบายน้ำริมถนนกับเทศบาล โดยมีรายการและรูปแบบแนบท้ายสัญญาเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาด้วย การที่จำเลยที่ 1ทราบอยู่แล้วขณะทำสัญญา และมีหน้าที่ต้องระมัดระวังไม่ขุดลึกลงไปถึงท่อวางสายเคเบิ้ลขององค์การโทรศัพท์ฯโจทก์ แต่กลับสั่งให้คนงานขุดไปตามแบบแปลนโดยให้อยู่ในความควบคุมของนายช่างเทศบาลคู่สัญญา จึงเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อปราศจากความระมัดระวังและมิใช่เป็นเหตุสุดวิสัยหรือเป็นความผิดของโจทก์ จำเลยทั้งสองต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นค่าซ่อมแซมสายเคเบิ้ลของโจทก์
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 41,469.50 บาท พร้อมดอกเบี้ย จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติโดยคู่ความมิได้โต้เถียงกันว่า ห้างจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการได้ทำสัญญาเป็นผู้รับจ้างก่อสร้างท่อระบายน้ำริมถนนมาตุลี กับเทศบาลเมืองนครสวรรค์ผู้ว่าจ้าง ปรากฏตามภาพถ่ายหนังสือสัญญาจ้างลงวันที่ 26 มกราคม 2522(ในสำนวนอันดับ 24) โดยมีรายการและรูปแบบแนบท้ายสัญญาดังเอกสารหมาย ล.2 เป็นส่วนหนึ่งแห่งข้อสัญญาด้วยในการก่อสร้างท่อระบายน้ำตามสัญญา คนงานซึ่งเป็นลูกจ้างและกระทำในทางการที่จ้างของห้างจำเลยที่ 1ได้ใช้เครื่องเจาะขุดพื้นคอนกรีตถูกสายเคเบิ้ลโทรศัพท์ทางไกลของโจทก์เสียหายทำให้ไม่สามารถติดต่อกันทางโทรศัพท์ได้ ต้องทำการซ่อมแซมใหม่ คดีมีปัญหาสู่ศาลฎีกาว่าจำเลยทั้งสองต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อโจทก์เพราะความประมาทเลินเล่อในการขุดเจาะพื้นคอนกรีตของคนงานของห้างจำเลยที่ 1 ทำให้สายเคเบิ้ลโทรศัพท์ของโจทก์เสียหายหรือไม่ ตามหนังสือสัญญาจ้างระหว่างห้างจำเลยที่ 1 กับเทศบาลเมืองนครสวรรค์ ที่โจทก์และจำเลยอ้างร่วมกัน (ในสำนวนอันดับ 24) ข้อ 7 คู่สัญญาได้ตกลงกันให้ถือเอารายการย่อประกอบการก่อสร้างตามเอกสารหมาย ล.2 แนบท้ายสัญญา เป็นส่วนหนึ่งแห่งสัญญาด้วย โดยมีข้อความว่า ในกรณีที่การก่อสร้างไม่สามารถจะก่อสร้างตามแนวท่อเดิมได้ อันเนื่องมาจากทางเท้าแคบ หากขุดลึกลงไปจะถึงฐานรากของอาคารและท่อวางสายเคเบิ้ลขององค์การโทรศัพท์ ให้ย้ายแนวมาไว้บนถนนโดยเจ้าหน้าที่ควบคุมงานหรือคณะกรรมการตรวจการจ้างจะเป็นผู้กำหนดแนวให้ ดังนี้ เห็นว่าขณะทำสัญญา ห้างจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการย่อมทราบอยู่แล้วว่า ณ บริเวณที่ทำการก่อสร้างวางท่อระบายน้ำพิพาทนั้น มีท่อวางสายเคเบิ้ลขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยโจทก์อยู่จึงได้ทำความตกลงว่าในการก่อสร้างหากขุดลึกลงไปจะถึงท่อวางสายเคเบิ้ลของโจทก์ ก็ให้ย้ายแนวการก่อสร้าง ฉะนั้น การที่ห้างจำเลยที่ 1 ทราบและมีหน้าที่ต้องระมัดระวังไม่ขุดลึกลงไปถึงท่อวางสายเคเบิ้ลของโจทก์ดังกล่าวแต่กลับสั่งให้คนงานของห้างจำเลยที่ 1 ดำเนินการขุดไปตามแบบแปลน โดยให้อยู่ในความควบคุมของนายช่างเทศบาลเมืองนครสวรรค์คู่สัญญา ดังที่ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคำให้การและโต้แย้งมาในฎีกานั้น จึงมิใช่เป็นการใช้ความระมัดระวังตามสมควร หากแต่เป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อปราศจากความระมัดระวังทำให้ทรัพย์สินของโจทก์เสียหาย และกรณีหาใช่เป็นเหตุสุดวิสัยหรือเป็นความผิดของโจทก์ซึ่งได้วางสายเคเบิ้ลนั้นไว้ก่อนแล้วดังที่จำเลยทั้งสองยกขึ้นโต้เถียงแต่ประการใดไม่ ห้างจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ จึงต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายเป็นค่าซ่อมแซมสายเคเบิ้ลของโจทก์ ส่วนจำนวนค่าเสียหายจำเลยมิได้ฎีกาโต้แย้งจึงไม่ต้องวินิจฉัย”
พิพากษายืน