คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2888/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นรัฐวิสาหกิจ ดำเนินการโดยคณะกรรมการเป็นอิสระ เงินเดือนและเงินอื่น ๆ ของลูกจ้างของการรถไฟแห่งประเทศไทยได้รับจากงบประมาณของการรถไฟแห่งประเทศไทย มิใช่จากเงินจัดสรรงบประมาณเหมือนข้าราชการและลูกจ้างของรัฐบาล จำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างของการรถไฟแห่งประเทศไทยจึงมิใช่เป็นลูกจ้างของรัฐบาลตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 286 (2)
เมื่อจำเลยไม่ใช่ลูกจ้างของรัฐบาลสิทธิเรียกร้องของจำเลยอันมีต่อการรถไฟแห่งประเทศไทยในอันที่จะได้รับเงินกองทุนสงเคราะห์ทดแทน จึงตกอยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 286 (3)

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยซึ่งเป็นพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยชำระหนี้ตามสัญญากู้แก่โจทก์ ต่อมาจำเลยได้พ้นจากการเป็นพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยและมีสิทธิได้รับเงินกองทุนสงเคราะห์ทดแทนซึ่งเป็นเงินที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้หักไว้จากเงินเดือนของจำเลยทำนองเงินสะสม และการรถไฟแห่งประเทศไทยสมทบให้อีกส่วนหนึ่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องเงินดังกล่าว โดยให้การถไฟแห่งประเทศไทยชำระเงินตามสิทธิเรียกร้องของจำเลยเท่าจำนวนหนี้ตามคำพิพากษาแก่ศาล
จำเลยยื่นคำร้องว่า จำเลยมีฐานะเป็นลูกจ้างของรัฐบาล บรรดาสิทธิเรียกร้องของจำเลยไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี ขอให้เพิกถอนหมายอายัด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นรัฐวิสาหกิจ ดำเนินกิจการโดยคณะกรรมการเป็นอิสระ เงินเดือนและเงินอื่น ๆ ของลูกจ้างการรถไฟแห่งประเทศไทยได้รับจากงบประมาณของการรถไฟแห่งประเทศไทย มิใช่จากเงินจัดสรรงบประมาณเหมือนข้าราชการและลูกจ้างของรัฐบาล จำเลยจึงหาใช่เป็นลูกจ้างของรัฐบาลตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๘๖ (๒) ไม่ เมื่อจำเลยมิใช่ลูกจ้างของรัฐบาล สิทธิเรียกร้องในเงินกองทุนสงเคราะห์ทดแทนของจำเลยที่มีอยู่การรถไฟแห่งประเทศไทยผู้เป็นนายจ้างจึงตกอยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๘๖ (๓)
พิพากษายืน

Share