คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 613/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานมีสินค้าควบคุมไว้ในความครอบครองเกินจำนวนหรือปริมาณที่กำหนด และนำเข้ามาในเขตควบคุมนั้นเกิดขึ้นเพราะจำเลยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้อำนวยการหรือผู้ซึ่งผู้อำนวยการมอบหมายเท่านั้น สินค้ากับรถยนต์ของกลางจึงไม่ใช่ทรัพย์สินมีไว้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา32 หรือเป็นทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดหรือที่ได้มาโดยการกระทำผิดซึ่งศาลจะพึงมีอำนาจสั่งให้ริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีบุหรี่จำนวน 7,500 ซอง ผ้าสีต่าง ๆ จำนวน 1,602 เมตร อันเป็นสินค้าควบคุมในเขตอำเภอตาพระยา จังหวัดปราจีนบุรี อันเป็นเขตควบคุม ไว้ในความครอบครองเกินจำนวนและปริมาณตามที่ประกาศห้ามไว้ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้อำนวยการหรือผู้ซึ่งอำนวยการมอบหมาย กับใช้รถยนต์หมายเลขทะเบียน น.3331 ปราจีนบุรีบรรทุกสินค้าดังกล่าวเข้ามาในเขตอำเภอตาพระยา จังหวัดปราจีนบุรี ขอให้ลงโทษตามพระราชกำหนดควบคุมสินค้าตามชายแดน พ.ศ. 2524 ฯลฯ ริบของกลางทั้งหมด

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชกำหนดควบคุมสินค้าตามชายแดน พ.ศ. 2524 ฯลฯ ลงโทษจำคุก และริบของกลางทั้งหมด

จำเลยอุทธรณ์ขอให้คืนของกลาง

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ริบของกลางและให้คืนแก่เจ้าของ

โจทก์ฎีกาขอให้ริบของกลางทั้งหมด

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามพระราชกำหนดควบคุมสินค้าตามชายแดนมิได้บัญญัติให้มีการริบของกลางไว้โดยเฉพาะ ที่โจทก์ฎีกาว่าต้องใช้ประมวลกฎหมายอาญาซึ่งเป็นแม่บททั่วไปเพื่อริบของกลางนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย แต่เห็นว่า ความผิดในกรณีนี้เกิดขึ้นเพราะจำเลยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้อำนวยการหรือผู้ซึ่งผู้อำนวยการมอบหมายเท่านั้น สินค้ากับรถยนต์ของกลางจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 หรือเป็นทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดหรือที่ได้มาโดยการกระทำผิดซึ่งศาลจะพึงมีอำนาจสั่งให้ริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33ที่ศาลอุทธรณ์สั่งไม่ริบของกลาง และให้คืนของกลางแก่เจ้าของไปนั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

พิพากษายืน

Share