คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1803/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ลูกจ้างกับนายจ้างวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันลูกจ้างตบตีนายจ้างลงไปนอนและขึ้นนั่งคร่อมทับไว้ บุตรชายและบุตรสาวของนายจ้างเข้าช่วยมารดา ลูกจ้างจึงได้หันเข้าทำร้ายบุตรสาวนายจ้างบาดเจ็บและชักเงี่ยงปลากะเบนที่ตนพกไว้ออกแทงบุตรชายนายจ้าง 1 ทีถึงแก่ความตายแม้ก่อนแทง บุตรชายนายจ้างจะได้บีบคอลูกจ้างจนติดกำแพงลูกจ้างจึงได้ชักเงี่ยงปลาที่พกไว้ออกมาแทงก็ดี ก็เป็นเรื่องการกระทำต่อสู้กันในการวิวาทลูกจ้างจะอ้างว่ากระทำไปโดยจำเป็นเพื่อป้องกันตัว ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า นางสมบุญจำเลยฝ่ายหนึ่ง นางเยื้อนนางรีณาจำเลยกับนายยอนอีกฝ่ายหนึ่ง ได้สมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน มีบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย นางสมบุญจำเลยใช้เงี่ยงปลากะเบนแทงนายยอนตายโดยไม่เจตนา ขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นฟังว่า นางเยื้อน นางรีณา นายยอนกลุ้มรุมทำร้ายนางสมบุญ ๆ ใช้เงี่ยงปลากะเบนแทงนายยอนตายโดยความจำเป็นป้องกันตัว ไม่ควรมีความผิด จึงพิพากษาลงโทษนางเยื้อน นางรีณา ว่าผิดตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๕๔ จำคุกคนละ ๑๐ วัน ปรับคนละ ๕๐ บาท โทษจำให้ยกเสีย ปล่อยนางสมบุญไป
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษนางสมบุญจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า นางสมบุญผิดตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๕๔,๒๕๑,๒๕๓ ให้ลงโทษตามมาตรา ๒๕๑ ซึ่งเป็นกะทงหนัก ให้จำคุกนางสมบุญ ๔ ปี
นางสมบุญจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้นางเยื้องจะเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายนางสมบุญก่อน แต่นางสมบุญก็สมัครใจเข้าวิวาททำร้ายกับนางเยื้องโดยเข้าตีนางเยื้องลงไปนอนแบ และขึ้นนั่งคร่อมทับไว้เมื่อนางรีณาและเด็กชายยอนเข้ามาช่วยนางเยื้อง นางสมบุญก็ได้หันเข้าทำร้ายนางรีณาบาดเจ็บและเด็กชายยอนถึงตาย การที่เด็กชายยอนเข้าบีบคอนางสมบุญก็เป็นกระทำการต่อสู้ในการวิวาท หาใช่เด็กชายยอนมากระทำแก่นายสมบุญฝ่ายเดียวไม่และการที่นาวสมบุญชักเงี่ยงปลากะเบนที่ตนพกไว้ออกแทงเด็กชายยอน ก็เห็นได้ว่าไม่ใช่เป็นการกระทำโดยจำเป็นเพื่อป้องกันตัวเลย ที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษนางสมบุญฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาเป็นการถูกต้องแล้ว จึงพิพากษายืน

Share