คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2882/2548

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อศาลอนุญาตให้บุคคลใดฟ้องหรือต่อสู้ความอย่างคนอนาถา บุคคลนั้นไม่ต้องเสียเฉพาะค่าธรรมเนียมศาลในการดำเนินกระบวนพิจารณารวมถึงเงินวางศาลในการยื่นฟ้องอุทธรณ์หรือฎีกาเท่านั้น เงินวางศาลในการยื่นอุทธรณ์คือเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งจะต้องนำมาวางพร้อมอุทธรณ์ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 229 ส่วนเงินที่จำเลยต้องชำระตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือประกันที่ต้องให้ไว้ต่อศาลตาม ป.วิ.พ. มาตรา 234 มิใช่ค่าธรรมเนียมศาลที่จะขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา

ย่อยาว

คดีเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ชำระเงิน 1,016,381.17 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 12 ต่อปี นับแต่วันถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 21 มิถุนายน 2544) ไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยที่ 2 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ กำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ พร้อมกับยื่นคำร้องขออุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่า ให้จำเลยที่ 2 ชำระค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์เต็มตามอัตราที่กฎหมายระบุไว้ ให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมใช้แทนโจทก์เต็มตามที่ระบุไว้ในคำพิพากษา กับให้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาบางส่วนหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลเป็นเงิน 50,000 บาท ภายใน 15 วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งอุทธรณ์คำสั่ง อนุญาตให้ยกเว้นการนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลในส่วนที่เหลือ ต่อมาจำเลยที่ 2 ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวมาวางต่อศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นจึงส่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ให้ศาลอุทธรณ์ภาค 3 เพื่อพิจารณาสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งว่า การยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ จำเลยที่ 2 ต้องนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้นจนครบถ้วนตาม ป.วิ.พ. มาตรา 234 มิใช่ค่าธรรมเนียมศาลที่จะมาขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นนี้ได้ อีกทั้งจำเลยที่ 2 ได้ชำระค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์แล้วจำนวน 40 บาท จึงไม่มีเหตุที่จะต้องพิจารณาเรื่องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาในชั้นนี้ ให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้น เมื่อจำเลยที่ 2 วางเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงกับนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาบางส่วนต่อศาลชั้นต้นแล้ว จึงให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยที่ 2 นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้นในส่วนที่เหลือจนครบถ้วนภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด หากจำเลยที่ 2 ปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลชั้นต้นให้ส่งสำนวนคืนศาลอุทธรณ์ภาค 3 เพื่อดำเนินการต่อไป
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 2 ว่า ที่ศาลชั้นต้นรับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 โดยอนุญาตให้ยกเว้นการนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลบางส่วนนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า การอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์นั้น ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 234 บัญญัติไว้ชัดแจ้งว่าจะต้องนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล และแม้ศาลชั้นต้นจะรับฟังว่าจำเลยที่ 2 เป็นคนยากจนอนาถา แต่เมื่อศาลอนุญาตให้บุคคลใดฟ้องหรือต่อสู้ความอย่างคนอนาถา บุคคลนั้นไม่ต้องเสียเฉพาะค่าธรรมเนียมศาลในการดำเนินกระบวนพิจารณารวมถึงเงินวางศาลในการยื่นฟ้องอุทธรณ์หรือฎีกาเท่านั้น ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 157 สำหรับเงินวางศาลในการยื่นฟ้องอุทธรณ์ คือ เงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลชั้นต้นซึ่งจะต้องนำมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ. มาตรา 229 ส่วนเงินที่จำเลยที่ 2 ต้องชำระตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือประกันที่ต้องให้ไว้ต่อศาลมิใช่ค่าธรรมเนียมศาลดังกล่าว จำเลยที่ 2 จะมาขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาให้ศาลยกเว้นไม่ต้องชำระหาได้ไม่ การที่ศาลชั้นต้นรับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 โดยอนุญาตให้ยกเว้นการนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาเพียงบางส่วนหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลเพียงบางส่วนดังกล่าวจึงเป็นการไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 234 คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 3 ที่ให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้นจึงชอบแล้ว
พิพากษายืน ให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยที่ 2 นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันไว้ต่อศาลชั้นต้นในส่วนที่เหลือจนครบถ้วนภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดใหม่ หากจำเลยที่ 2 ปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลชั้นต้นก็ให้ส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 3 เพื่อดำเนินการต่อไป ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share