คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2878/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้เสียหายอายุ 5 ขวบ จำเลยเป็นพี่เขยของบิดาของผู้เสียหาย อยู่บ้านใกล้กัน วันเกิดเหตุผู้เสียหายไปเล่นที่ใต้ถุนบ้านของจำเลย จำเลยเรียกผู้เสียหายขึ้นไปบนบ้านแล้วพาผู้เสียหายไปในครัว จำเลยนั่งบนโต๊ะแล้วเอาผู้เสียหายใส่เอวด้านหน้า ขาคาบเอวของจำเลย และจับก้นของผู้เสียหายกระแทกเข้าออก อวัยวะเพศของผู้เสียหายช้ำบวมเล็กน้อยและไม่มีน้ำหรือเชื้ออสุจิของชายในช่องคลอดของผู้เสียหาย ข้อเท็จจริงแสดงว่าจำเลยมิได้เอาอวัยวะเพศของจำเลยจ่อที่ช่องคลอดของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการพยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เป็นเพียงกระทำอนาจารผู้เสียหายเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยพยายามข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงรัดดาพรอายุ 5 ขวบ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277, 279

จำเลยให้การปฎิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277, 80 ให้จำคุก 1 ปี 4 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 ให้จำคุก 1 ปี และปรับ 3,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี ตามมาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามมาตรา 29, 30

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงเป็นอันยุติฟังได้ในเบื้องต้นว่า เด็กหญิงรัดดาพรผู้เสียหายอายุ 5 ขวบ จำเลยเป็นพี่เขยของนายขอด อุทธา บิดาของผู้เสียหาย และบ้านอยู่ใกล้กัน ตามวันเวลาที่โจทก์กล่าวหาผู้เสียหายไปเล่นที่ใต้ถุนบ้านของจำเลย จำเลยเรียกผู้เสียหายขึ้นไปบนบ้าน แล้วพาผู้เสียหายไปในครัว จำเลยนั่งบนโต๊ะแล้วเอาผู้เสียหายใส่เอวด้านหน้าขาคาบเอวของจำเลย และจับก้นของผู้เสียหายกระแทกเข้าออกจนอวัยวะเพศของผู้เสียหายช้ำบวม

ที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายนั้น โจทก์มีประจักษ์พยาน 2 ปากคือผู้เสียหายและเด็กหญิงบัณฑิตพี่ของผู้เสียหาย ซึ่งเดินผ่านบ้านของจำเลยแล้วได้ยินเสียงผู้เสียหายร้องไห้ จึงขึ้นไปดูและเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้เสียหายเบิกความว่าเมื่อจำเลยเรียกผู้เสียหายขึ้นไปบนบ้านแล้ว จำเลยได้สี่(กระทำชำเรา) ผู้เสียหาย และเอาเงินให้ผู้เสียหาย 1 บาท จ้างไม่ให้บอกคนอื่น ผู้เสียหายไม่ได้เบิกความว่าจำเลยกระทำอย่างไรกับผู้เสียหายและเมื่อพิเคราะห์คำเบิกความของผู้เสียหายที่ว่าบิดาเป็นคนบอกให้ผู้เสียหายพูด บอก 2 ครั้ง ที่ผู้เสียหายเบิกความว่าจำเลยได้สี่ผู้เสียหายนั้นอาจเบิกความตามที่บิดาของผู้เสียหายสอนก็ได้ ส่วนเด็กหญิงบัณฑิตก็เห็นเพียงว่าจำเลยซึ่งนุ่งผ้าขาวม้ากำลังเอาผู้เสียหายซึ่งไม่ได้สวมเสื้อผ้าใส่เอวด้านหน้าเอาขาคาบเอวจับก้นของผู้เสียหายกระแทกเข้ากระแทกออกแล้วเด็กหญิงบัณฑิตก็วิ่งกลับบ้านไปบอกนางสาวพิกุลว่าจำเลยกระทำชำเราผู้เสียหาย หากจำเลยเจตนาจะข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย จำเลยจะต้องเอาอวัยวะเพศของจำเลยจ่อที่ช่องคลอดของผู้เสียหาย เมื่อจำเลยจับก้นของผู้เสียหายกระแทกเข้าออกอวัยวะเพศของจำเลยจะถูกตรงช่องคลอดของผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กอายุเพียง 5 ขวบจะต้องฉีกขาดหรือช้ำบวมมาก การที่อวัยวะเพศของผู้เสียหายช้ำบวมเล็กน้อย และไม่มีน้ำหรือเชื้ออสุจิของชายในช่องคลอดของผู้เสียหาย จึงแสดงว่าจำเลยมิได้เอาอวัยวะเพศของจำเลยจ่อที่ช่องคลอดของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการพยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เป็นเพียงกระทำอนาจารผู้เสียหายเท่านั้น

แล้ววินิจฉัยว่าไม่สมควรรอการลงโทษจำคุก

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยหนึ่งปีโดยไม่ปรับ และไม่รอการลงโทษ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share