คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้เช่าที่ดินทำการเลี้ยงเป็ดประมาณพันตัวไว้และขายไข่เป็นอาชีพและเช่าโรงเลี้ยงเป็ด โรงเตาต้มอาหารเป็ด
จำเลยและครอบครัวก็อาศัยกินอยู่หลับนอนในที่นี้บริเวณเขตติดต่อสองด้านมีคนเลี้ยงเป็ดเป็นอาชีพเช่นจำเลยพวกที่เลี้ยงเป็ดข้างเคียงก็อาศัยกินอยู่หลับนอนในที่ในเขตตำบลเดียวกับที่จำเลยเช่า ที่ใกล้เคียงมีผู้ประกอบอาชีพในการเลี้ยงเป็ดประมาณ 100 หลังคาเรือนขึ้นไป ที่ๆ จำเลยเช่านี้อยู่ในเขตเทศบาลด้วยเช่นนี้เห็นได้ว่าเนื้อแท้ของการเช่าก็เพื่อประกอบธุระกิจเลี้ยงเป็ดขายไข่เป็นอาชีพตามทำเลที่กระทำกันในถิ่นนั้นทั่วๆ ไป การที่ต้องเข้าไปอาศัยอยู่ด้วยก็เพื่อประกอบธุระกิจตามที่มุ่งเช่ามาจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯพ.ศ.2489 มาตรา16

ย่อยาว

ได้ความว่าเมื่อ พ.ศ. 2493 จำเลยได้ทำหนังสือสัญญากันเองโดยมิได้จดทะเบียนเช่าที่กันส่วนหนึ่งของโฉนดที่ 2175 ประมาณ 3 งานพร้อมด้วยโรงเลี้ยงเป็ด 1 โรง ๆ เตาต้มอาหารเป็ด 3 ห้องในที่มีกำหนด 5 ปีนับแต่วันที่ 5 กันยายน 2493 ถึง 5 กันยายน 2498 จากเจ้าของชื่อนายสวัสดิ์ ยี่สุ่นศรี แล้วยกครอบครัวเข้าอยู่เลี้ยงเป็ดประมาณพันตัวขายไข่เป็นอาชีพก่อนครบกำหนดเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2497 นายสวัสดิ์ เจ้าของเดิมโอนขายกรรมสิทธิ์โฉนดที่ 2175 ให้โจทก์ต่อมาอีก 15 วันถึงวันที่ 22 เมษายน 2497 โจทก์มีหนังสือแจ้งการรับโอนและให้จำเลยและบริวารขนย้ายออกไปจากที่นี้

จำเลยต่อสู้ว่าได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ พ.ศ. 2489 มาตรา 16 ขอให้ยกฟ้อง

คู่ความรับกันว่าที่เช่านี้ด้านหนึ่งติดคลองมหาชัย ด้านหนึ่งติดคู เขตติดต่ออีก 2 ด้านมีคนเลี้ยงเป็ดเป็นอาชีพเช่นจำเลยพวกที่เลี้ยงเป็ดข้างเคียงนั้นก็อาศัยกินอยู่หลับนอนในที่ เสียค่าเช่าในอัตราค่าเช่าเท่ากับจำเลย เฉพาะในเขตตำบลเดียวกับที่เช่าที่ใกล้เคียงมีผู้ประกอบอาชีพในการเลี้ยงเป็ดประมาณ100 หลังคาเรือนขึ้นไป

ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายได้ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของโจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ100 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

จำเลยฎีกา

ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาในปัญหาว่าที่ดินและโรงที่เช่าเป็นที่ดินหรือเคหะที่ควรได้รับความคุ้มครองฯ หรือไม่ เพียงข้อเดียว

ข้อนี้ศาลฎีกาเห็นว่า เนื้อแท้ของการเช่าก็เพื่อประกอบธุรกิจเลี้ยงเป็ดขายไข่เป็นอาชีพตามทำเลที่กระทำกันในถิ่นนั้นทั่ว ๆ ไปที่ต้องเข้าไปอยู่ด้วยก็เพื่อประกอบธุรกิจตามที่มุ่งเช่ามาจึงมิได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนให้ใช้ค่าทนายชั้นฎีกาแทนโจทก์ 25 บาท

Share