คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1188/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายเนื่องจากเหตุเรือโดนกันนั้นต้องใช้อายุความ 1 ปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2499)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ลูกจ้างจำเลยที่ 2 ได้ถือท้ายเรือโดยประมาททำให้เรือขนเรือโจทก์เสียหายและมีผู้บาดเจ็บสาหัสขอให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าเสียหาย 30,000 บาท

จำเลยทั้งสองปฏิเสธความรับผิดและตัดฟ้องว่า คดีขาดอายุความ

ในวันชี้สองสถานโจทก์แถลงว่าได้รู้เรื่องการกระทำละเมิดของจำเลยเมื่อคำนวนถึงวันฟ้องกว่า 6 เดือน

จำเลยขอให้ศาลชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นเรื่องอายุความ

ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีนี้มีการฟ้องคดีอาญาฐานทำให้คนบาดเจ็บโดยประมาท คดียังไม่ถึงที่สุด อายุความย่อมสดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความให้ดำเนินการพิจารณาต่อไป

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า พระราชบัญญัติเดินเรือในน่านน้ำสยาม พ.ศ. 2456 เป็นกฎหมายพิเศษต้องบังคับคดีตามนั้นเฉพาะจำเลยที่ 2โจทก์ฟ้องเกิน 6 เดือน จึงขาดอายุความส่วนจำเลยที่ 1 ไม่ปรากฏว่าจำเลยถูกฟ้องคดีอาญาเมื่อใด จะชี้ขาดเรื่องอายุความยังไม่ได้ จึงพิพากษาแก้ว่าให้ยกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 2

โจทก์ฎีกา

ปัญหาในชั้นฎีกาคงมีเพียงว่าจำเลยที่ 2 จะควรใช้อายุความตามพระราชบัญญัติเดินเรือในน่านน้ำสยาม พ.ศ. 2456 มาตรา 308 หรืออายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448

ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 3 ได้บัญญัติให้ยกเลิกบรรดากฎหมาย กฎ และข้อบังคับที่บัญญัติไว้ในประมวลนี้หรือที่แย้งกับประมวลนี้เสีย ในกรณีที่ยังจะใช้อยู่ต่อไปก็ต้องมีบัญญัติไว้เป็นพิเศษเช่นในมาตรา 1326 เรื่องนี้เป็นเรื่องละเมิดนั่นเองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 กำหนดอายุความไว้ 1 ปี และไม่มีข้อยกเว้นไว้เป็นพิเศษ จึงต้องใช้มาตรา 448 เป็นบทบังคับ พิพากษาแก้ว่าสำหรับตัวจำเลยที่ 2 ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ ให้ดำเนินการพิจารณาต่อไป

Share