คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 285/2507

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ส.ค.1 เป็นแบบแจ้งการครอบครองที่ดินเพื่อยึดถือเอาที่ดินเป็นของตน หรืออีกนัยหนึงเพื่อต้องการมีสิทธิครอบครองเหนือที่ดินนั้นประกอบกับพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 5 ให้ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแจ้งการครอบครอง ถ้าไม่แจ้งภายในกำหนด ให้ถือว่าสละสิทธิครอบครอง ฉะนั้น ส.ค.1 จึงเป็นเอกสารที่เป็นหลักฐานว่าผู้แจ้งคงมีสิทธิครอบครองอยู่ จึงตรงกับคำว่า “สงวนซึ่งสิทธิ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(9) ส.ค.1 จึงเป็นเอกสารสิทธิ
แต่ ส.ค.1 ไม่ใช่เอกสารราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(8) เพราะไม่ใช่เอกสารที่เจ้าพนักงานทำขึ้นหรือรับรองในหน้าที่
จำเลยแก้ไขเพิ่มเติมและตัดทอนข้อความใน ส.ค.1 แบบแจ้งการครอบครองที่ดินนั้นมีความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ไม่ผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการตามมาตรา 266

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพ คดีฟังได้ความสำคัญดังนี้ ่จำเลยได้แก้ไขเพิ่มเติมและตัดทอนข้อความในหนังสือแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน ส.ค.๑ และได้นำเอกสารที่จำเลยปลอมนี้มาแสดงต่อร้อยตำรวจเอกสัญชัย การกระทำของจำเลยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและราชการ
โจทก์ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๔,๒๖๕,๒๖๖,๒๖๘ และขอให้ริบของกลาง
ศาลจังหวัดภูเขียวพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๕,๒๖๘ โดยเห็นว่าแบบ ส.ค.๑ เป็นเพียงเอกสารสิทธิ ให้ยกข้อหาตามมาตรา ๒๖๖
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ส.ค.๑ ไม่ใช่เอกสารสิทธิ แต่เป็นเอกสารราชการเพราะมีกฎหมายบัญญัติว่า ส.ค.๑ ต้องมีกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านรับรองข้อความว่าถูกต้องตามความจริง พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๕ และ ๒๖๘ แต่ให้ลงโทษฐานใช้เอกสารปลอมตามมาตรา ๒๖๘ กระทงเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๘ วรรคสอง
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๖๖
ศาลฎีกาเห็นว่า ปัญหาที่โต้เถียงมีว่า ส.ค.๑ (แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน) เป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการหรือไม่
ศาลฎีกาเห็นว่า ส.ค.๑ เป็นแบบแจ้งการครอบครองของผู้ครอบครองที่ดินนั้นเพื่อยึดถือเอาที่ดินเป็นของตนหรืออีกนัยหนึ่งเพื่อต้องการมีสิทธิครอบครองเหนือที่ดินนั้น ๆ จึงตรงกับคำว่า “สงวนซึ่งสิทธิ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑(๙) โดยผู้ครอบครองต้องการสงวนสิทธิของตน ณ พื้นที่ดินนั้น ประกอบกับพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา ๕ ให้ผู้ครอบครองและหาประโยชน์ในที่ดินฯ แจ้งการครอบครอง ถ้าไม่แจ้งภายในกำหนดให้ถือว่าสละสิทธิครอบครอง ฉะนั้น ส.ค.๑ จึงเป็นเอกสารที่เป็นหลักฐานว่าผู้แจ้งคงมีสิทธิครอบครองอยู่ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ส.ค.๑ จึงเป็นเอกสารสิทธิ และไม่ใช่เอกสารราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑(๘) เพราะไม่ใช่เอกสารที่เจ้าพนักงานทำขึ้นหรือรับรองในหน้าที่
จำเลยกระทำผิดฐานปลอมเกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอมนั้น ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๖๘ วรรคสอง ให้ลงโทษฐานใช้เอกสารสิทธิปลอมแต่กระทงเดียว
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม แต่ให้ลงโทษฐานใช้เอกสารสิทธิปลอมกระทงเดียว ส่วนโทษที่จำเลยจะได้รับให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share