คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2845/2535

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ให้สิทธิแก่บุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่จำเลยที่จะยื่นคำร้องขอคืนของกลางที่ศาลสั่งริบได้ ผู้ร้องซึ่งเป็นจำเลยที่ 3 ในคดี ไม่มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคืนของกลาง

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติและพระราชบัญญัติป่าไม้ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสาม ริบของกลาง จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง แต่ให้ริบไม้ 3 ท่อนรถแทรกเตอร์ 1 คัน และรถยกไม้ 2 คันของกลาง คดีถึงที่สุด
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถแทรกเตอร์ 1 คันและรถยกไม้ 2 คัน ของกลาง ผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดดังกล่าว ขอให้สั่งคืนรถแทรกเตอร์ 1 คันและรถยกไม้ 2 คันของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์คัดค้านว่า ผู้ร้องมิได้เป็นเจ้าของรถแทรกเตอร์1 คันและรถยกไม้ 2 คันของกลาง หรือหากเป็นเจ้าของ ผู้ร้องก็รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยเป็นข้อแรกตามที่ผู้ร้องฎีกาว่า ผู้ร้องมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคืนของกลางหรือไม่ ในปัญหานี้เห็นว่า แม้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา36 มิได้บัญญัติไว้โดยชัดเจนว่า จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของแท้จริงของทรัพย์สินที่ศาลสั่งให้ริบไม่อาจขอให้ศาลสั่งคืนทรัพย์สินนั้นในภายหลังโดยอ้างว่ามิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดแต่ก็เห็นได้ว่าการขอคืนทรัพย์สินของกลางที่ศาลได้สั่งริบตามที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 บัญญัติไว้นั้น เป็นเรื่องให้สิทธิแก่บุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่จำเลยในคดีนั้นเท่านั้นที่จะยื่นคำร้องขอคืนทรัพย์สินของกลางที่ศาลได้สั่งริบโดยอ้างว่าตนเป็นเจ้าของแท้จริงและมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดหาใช่จำเลยในคดีนั้นจะใช้สิทธิเช่นนั้นได้ด้วยไม่ ทั้งนี้เพราะหากจำเลยเป็นเจ้าของแท้จริงของทรัพย์สินของกลางที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งริบและมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดนั้นจำเลยก็ย่อมมีสิทธิที่จะนำพยานหลักฐานมาสืบในชั้นพิจารณาคดีนั้นว่าจำเลยเป็นเจ้าของแท้จริงของทรัพย์สินดังกล่าวและมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด ทั้งมีสิทธิที่จะอุทธรณ์ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาของศาลที่สั่งริบทรัพย์สินนั้นได้อยู่แล้วดังนั้นเมื่อคดีถึงที่สุดโดยศาลสั่งริบทรัพย์สินของกลาง จำเลยจึงไม่มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคืนทรัพย์สินของกลางได้อีก ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยว่า ผู้ร้องซึ่งเป็นจำเลยที่ 3 ในคดีนี้ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคืนของกลางนั้น จึงชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share