แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลย เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย แต่เนื่องจากจำเลยมิได้ยกขั้นกล่าว ในศาลชั้นต้น จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า การที่จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ จึงไม่อาจ ยกปัญหาข้อกฎหมายขึ้นกล่าวอ้างในศาลชั้นต้นได้เนื่องจากพฤติการณ์ ไม่เปิดช่องให้กระทำได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคสอง ที่ศาลอุทธรณ์ ไม่ รับวินิจฉัยอุทธรณ์ ในปัญหาข้อกฎหมายของจำเลยจึงไม่ชอบ และจำเลยมีสิทธิ ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคสอง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปตามรูปคดี
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานในสำนวนว่า โจทก์ได้รับสำเนา คำร้องแล้วหรือไม่
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลย ให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง พร้อมทั้งขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากที่ดินของโจทก์ และส่งมอบ ที่ดินคืนในสภาพเรียบร้อย ให้จำเลยชำระค่าเสียหายให้โจทก์ เดือนละ 100 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะออกไป
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 129)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 131) โดยจำเลยไม่นำ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาล และนำเงินมาชำระตาม คำพิพากษา หรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล แต่ได้ทำหนังสือสัญญาค้ำประกัน ในการขอทุเลาการบังคับชั้นอุทธรณ์ (อันดับ 112,115)
คำสั่ง
จำเลยฎีกาว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความและเป็นฟ้องเคลือบคลุม คดีนี้จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ข้อฎีกาของจำเลยจึงเป็นปัญหา ข้อกฎหมายที่จำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคสอง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
