คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2088/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ไม้แปรรูปซึ่งแปรรูปจากไม้ซึ่งขึ้นในที่ดินของจำเลย และไม่ใช่ไม้สักหรือไม้ยาง ทั้งมิได้ขึ้นอยู่ในป่า จึงไม่เป็นไม้หวงห้าม จำเลยมีไม้แปรรูปดังกล่าวไว้ในครอบครอง จึงไม่มีความผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจทำไม้โดยตัดฟันและถากไม้เต็ง ไม้รังอันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. โดยไม่รับอนุญาต และมีไม้หวงห้ามดังกล่าวรวมทั้งไม้ประดู่ไม้พลวงแปรรูปแล้วปริมาตรเกินกว่า ๐.๒๐ ลูกบาศก์เมตร ไว้ในความครอบครอง ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ มาตรา ๑๑, ๔๘, ๗๓, ๗๔, ๗๔ จัตวา พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๖ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๑๙, ๒๘ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๗, ๙ ริบของกลาง และสั่งจ่ายสินบนนำจับให้แก่ผู้นำจับ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยตัดฟันและถากไม้ซึ่งขึ้นอยู่ในที่ดินของจำเลยและสามี จึงไม่มีความผิดฐานทำไม้ แต่มีความผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช๒๔๘๔ มาตรา ๔๘, ๗๓, ๗๔, ๗๔ จัตวา พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๑๘มาตรา ๑๙, ๒๘ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๙ ลงโทษจำคุก๒ ปี ปรับ ๓๐,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี ของกลางริบ จ่ายสินบนนำจับตามกฎหมาย ยกฟ้องข้อหาทำไม้โดยไม่รับอนุญาต
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องข้อหามีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยไม่ต้องจ่ายสินบนนำจับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตาตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาปัญหาข้อกฎหมายว่า ไม้แปรรูปของกลางที่จำเลยมีไว้ในความครอบครอง เป็นไม้ที่ขึ้นอยู่ในที่ดินของจำเลยและสามี การมีไว้ในความครอบครองแม้จะไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีความผิด
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ไม้แปรรูปของกลางแปรรูปจากไม้ซึ่งขึ้นในที่ดินของจำเลยและสามี ไม่ใช่ไม้สักและไม้ยาง ทั้งมิได้ขึ้นอยู่ในป่า จึงไม่เป็นไม้หวงห้ามตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๗ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ มาตรา ๕๐(๔) แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๑๖
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ข้อหามีไม้แปรรูปของกลางไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ของกลางคืนจำเลย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share