คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เดิมทางพิพาทเป็นถนนทางเข้าออกในที่ดินจัดสรรของโจทก์ โดยเป็นถนนซอยทอดต่อไปเชื่อมกับถนนสายอื่น ตามริมถนนพิพาททั้งสองข้างมีบ้านเรือนราษฎรปลูกอยู่ประมาณหนึ่งร้อยหลังคาเรือน มีโรงเลื่อยและโรงงานไสกบ มีโรงหญิงนครโสเภณีหลายโรง เป็นถนนซึ่งประชาชนและยวดยานพาหนะใช้สัญจรไปมากว่า 10 ปีแล้ว บริเวณถนนพิพาทมีเสาไฟฟ้าคอนกรีตของการไฟฟ้า และทางเทศบาลได้เคยนำหินลูกรังมาถมถนนพิพาทด้วย พฤติการณ์ดังนี้แสดงว่า โจทก์มีเจตนาสละการครอบครองถนนพิพาทและอุทิศถนนพิพาทให้เป็นถนนสาธารณะโดยปริยายแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน ได้ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานที่ดินเพื่อขอออกโฉนด แต่จำเลยคัดค้านว่าเป็นถนนสาธารณะ ขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองที่พิพาท
จำเลยให้การว่า โจทก์สละสิทธิการครอบครองที่พิพาทโดยให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้สัญจรไปมา และโจทก์อุทิศให้เป็นทางสาธารณะมากว่า ๑๐ ปีแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ที่พิพาทเดิมเป็นที่ส่วนหนึ่งของที่ดินโจทก์ แล้วต่อมาเป็นถนนซึ่งประชาชนและยวดยานพาหนะใช้สัญจรไปมา โดยเป็นถนนซอยทอดต่อไปเชื่อมกับถนนสายอื่นมาเป็นเวลากว่า ๑๐ ปีแล้ว แล้ววินิจฉัยว่า ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาบันทึกการตรวจสถานที่ของศาลว่า ตามริมถนนพิพาททั้งสองข้างมีบ้านของประชาชนปลูกอยู่ประมาณหนึ่งร้อยหลังคาเรือน ในชั้นเดิมโจทก์ตัดถนนพิพาทขึ้นจะให้เป็นทางเดินเข้าออกของผู้อยู่ในที่ดินจัดสรรของโจทก์ แล้วต่อมาราว พ.ศ. ๒๕๐๔ จึงได้ให้นายทองสุขทำถนนต่อออกไปจนทะลุถนนสิงหวัฒน์ และริมถนนพิพาทนี้มีโรงเลื่อยและโรงงานไสกบของนายคุยโห่งซึ่งใช้รถบรรทุกไม้เข้าออกถนนพิพาทอยู่เสมอ มีมูลนิธิมิตรสุโขทัยซึ่งสร้างในที่ดินที่บิดาโจทก์อุทิศให้ มีโรงหญิงนครโสเภณีหลายโรงซึ่งเวลากลางคืนมีพวกผู้ขายเข้าออกถนนพิพาทไปเที่ยวกันมาก และบริเวณถนนพิพาทมีเสาไฟฟ้าคอนกรีตของการไฟฟ้า ฯ ปักอยู่ ๒ ต้น โจทก์เบิกความรับว่าเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๖ เทศบาลสุโขทัยได้เอาหินลูกรังมาถมถนนพิพาทได้ความยาวประมาณ ๕ เส้น นับจากถนนวิเชียรจำนงค์ (ซึ่งอยู่ปากทางพิพาท) พฤติการณ์ดังนี้แสดงว่าโจทก์ได้มีเจตนาสละการครอบครองถนนพิพาทและอุทิศถนนพิพาทให้เป็นถนนสาธารณะโดยปริยายแล้ว ถนนพิพาทเป็นที่ดินที่ยังไม่มีหนังสือสำคัญ
เมื่อแสดงเจตนาสละการครอบครองแล้ว โจทก์ก็ขาดสิทธิครอบครองต่อไป ที่โจทก์ว่านำประกาศไปปิดว่าเป็นทางสงวนสิทธินั้น น่าเชื่อตามที่จำเลยนำสืบว่าโจทก์ปิดประกาศภายหลังจากโจทก์ฟ้องคดีนี้แล้ว จึงไม่มีผล ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share