คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1508/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยได้กล่าวถึงรายละเอียดที่จำเลยทั้งสองได้ขาดนัดพิจารณา และหากจำเลยทั้งสองไม่ขาดนัดก็มีทางชนะคดีโจทก์ได้ เพราะมีโอกาสซักค้านและสืบพยานหักล้างพยานโจทก์ ไม่ได้กล่าวถึงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล ไม่มีข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย เหตุผลหรือหลักฐานที่แสดงในคำร้องว่าคำพิพากษาของศาลไม่ถูกต้องประการใด และหากพิจารณาใหม่แล้ว ศาลอาจพิพากษาให้ผิดแผกแตกต่างไปจากที่ได้พิพากษาไปแล้ว คำร้องขอของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติแห่งมาตรา 208 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับชำระหนี้จากจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นลูกหนี้ของโจทก์ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี โดยมีจำเลยที่ ๒ จำนองที่ดินเป็นประกัน ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน ๓ ล้านบาทเศษพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสองให้การเป็นทำนองเดียวกันเรื่องอำนาจฟ้อง จำนวนเงินที่ฟ้องโจทก์ไม่ได้บอกกล่าวบังคับจำนองโดยชอบและฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
จำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินจำนวน ๓ ล้านบาทเศษพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่อ้างว่าจำเลยทั้งสองสำคัญผิดวันนัดสืบพยาน หากไม่ขาดนัดจำเลยทั้งสองมีทางชนะคดีโจทก์ได้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยมิได้แสดงโดยละเอียดชัดแจ้งถึงข้อที่คัดค้านคำตัดสินของศาล จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๐๘ ให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสองมีข้อความสำคัญว่า จำเลยทั้งสองมิได้จงใจขาดนัดพิจารณา เหตุที่เกิดขึ้นเพราะจำเลยจำวัดนัดสืบพยานสับสน โดยสำคัญผิดว่าวันนัดสืบพยานวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๒๐ เป็นวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๒๐ หากไม่เกิดความสำคัญผิดแล้วทนายจำเลยที่ได้แต่งตั้งใหม่ ซึ่งก็ได้มาศาลในวันนั้นแม้จะอยู่ต่างบัลลังก์ก็คงจะได้ยื่นคำร้องหรือคำแถลงให้ศาลทราบถึงข้อขัดข้อง หากจำเลยได้ดำเนินกระบวนพิจารณาโดยตลอดไม่ขาดนัดจำเลยทั้งสองมีทางชนะคดีได้อย่างแน่นอน โดยจำเลยทั้งสองจะได้ซักค้านและนำพยานเข้าสืบหักล้างคำเบิกความพยานโจทก์ว่าจำเลยมิได้เป็นหนี้ตามฟ้อง และสืบหักล้างเอกสารของโจทก์ว่าโจทก์คิดขึ้นเอง จำเลยมิได้รู้เห็นเกี่ยวข้องในเอกสารที่โจทก์ส่งศาล ดังนี้ คำร้องได้กล่าวถึงรายละเอียดที่จำเลยทั้งสองได้ขาดนัดพิจารณาเท่านั้น ไม่ได้กล่าวถึงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล กล่าวคือในคำร้องกล่าวแต่เพียงว่า หากจำเลยทั้งสองไม่ขาดนัด จำเลยทั้งสองมีทางชนะคดีโจทก์ได้โดย จำเลยทั้งสองมีโอกาสซักค้านและสืบพยานหักล้างพยานโจทก์เท่านั้น ไม่มีข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย เหตุผล หรือหลักฐานที่จะแสดงในคำร้องว่าคำพิพากษาของศาลไม่ถูกต้องประการใด และหากพิจารณาใหม่แล้วศาลอาจพิพากษาให้ผิดแผกแตกต่างไปจากที่ได้พิพากษาไปแล้ว คำร้องขอของจำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติแห่งมาตรา ๒๐๘ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
พิพากษายืน

Share