คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1449/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยฎีกาว่าคำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์เป็นที่สุด ทั้งโจทก์ได้ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นแล้ว เป็นเหตุให้คดีระงับไปตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 126 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ดังนี้เป็นฎีกาในปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ จำเลยก็ฎีกาในปัญหาข้อนี้ได้
คำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. มาตรา 125 ไม่มีบทบัญญัติให้เป็นที่สุด คำสั่งดังกล่าวจึงไม่เป็นที่สุด การที่โจทก์ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นมีผลเพียงให้การดำเนินคดีอาญาต่อโจทก์เป็นอันระงับตามมาตรา 126 เท่านั้น หามีผลให้สิทธิของโจทก์ในอันที่จะฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งนั้นระงับไปด้วยไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซึ่งเป็นคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ได้มีคำสั่งชี้ขาดว่าการที่โจทก์เลิกจ้างเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ ให้โจทก์รับลูกจ้างกลับเข้าทำงานและจ่ายค่าจ้างระหว่างเลิกจ้าง คำสั่งชี้ขาดของจำเลยดังกล่าวไม่ถูกต้องตรงกับความจริง เป็นการไม่ชอบ เพราะโจทก์เลิกจ้างลูกจ้างของโจทก์ เนื่องจากโจทก์ยุบแผนกที่ลูกจ้างทำอยู่แล้ว ให้ลูกจ้างในแผนกนั้นไปทำแผนกอื่น แต่ลูกจ้างไม่ยอม หาได้เลิกจ้าง เพราะเหตุที่ลูกจ้างร่วมยื่นข้อเรียกร้องและนัดหยุดงาน หรือเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานไม่ อย่างไรก็ดีโจทก์ได้ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวแล้ว จึงขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งและถือว่าการที่โจทก์เลิกจ้างเป็นการถูกต้อง ให้จำเลยชดใช้เงินแก่โจทก์
จำเลยทุกคนให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะคำสั่งดังกล่าวเป็นที่สุด และโจทก์ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นแล้ว เรื่องจึงระงับไปตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๑๒๖ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลย ออกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทุกคนฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าคำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์เป็นที่สุด ทั้งโจทก์ได้ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นแล้ว เป็นเหตุให้คดีระงับไปตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๑๒๖ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนั้น เป็นฎีกาในปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ จำเลยก็ฎีกาในปัญหาข้อนี้ได้
คำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๑๒๕ ไม่มีบทบัญญัติให้เป็นที่สุด คำสั่งดังกล่าวจึงไม่เป็นที่สุด การที่โจทก์ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นมีผลเพียงให้การดำเนินคดีอาญา ต่อโจทก์เป็นอันระงับไปตามมาตรา ๑๒๖ เท่านั้น หามีผลให้สิทธิของโจทก์ในอันที่จะฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งนั้นระงับไปด้วยไม่โจทก์จึงมีดำนาจฟ้อง และเห็นว่าโจทก์เลิกจ้างลูกจ้างของโจทก์ โดยสุจริต การกระทำของโจทก์ไม่ใช่การกระทำอันไม่เป็นธรรมดังคำสั่งของจำเลย
พิพากษายืน

Share