แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเข้าบีบคอผู้เสียหายทางด้านหลัง แล้วกระชากสร้อยคอห้อยพระเครื่องที่สวมอยู่ที่คอจนสร้อยขาดจากกัน ในทันใดผู้เสียหายได้ใช้มือกุมสร้อยคอที่หลุดจากคอแต่ยังอยู่ที่บริเวณหน้าอกไว้ได้ทัน จำเลยแย่งเอาไปไม่ได้แม้สร้อยคอจะอยู่ที่มือจำเลยตอนกระชาก ก็เป็นการกระทำในขั้นที่มุ่งหมายจะให้สร้อยขาดหลุดจากคอผู้เสียหายเท่านั้น เมื่อสร้อยขาดแล้วจำเลยยังไม่ทันยึดถือเอาไป ผู้เสียหายก็กุมสร้อยเอาไว้ได้ การที่จำเลยจะยึดถือเอาสร้อยไปยังไม่บรรลุผล การกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์เท่านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจลักสายสร้อยคอทองคำและพระเครื่องเลี่ยมทองคำของนางสาวกาบแก้ว แสงจันทรา โดยจำเลยกระชากฉกฉวยจากคอนางสาวกาบแก้วไปซึ่งหน้าโดยทุจริต โดยใช้กำลังประทุษร้ายบีบคอนางสาวกาบแก้ว เพื่อให้เป็นความสะดวกแก่การลักทรัพย์และพาเอาทรัพย์ดังกล่าวไป เพื่อให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์ และยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14 ประกอบด้วย มาตรา 80 จำเลยมีอายุ 18 ปีเศษลดมาตราส่วนโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 ให้จำคุกจำเลย 2 ปี 8 เดือน จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลย 1 ปี 4 เดือน
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเข้าบีบคอนางสาวกาบแก้วผู้เสียหายทางด้านหลัง แล้วกระชากสร้อยคอทองคำห้อยพระเครื่องเลี่ยมทองคำที่สวมอยู่ที่คอจนสร้อยขาดจากกัน ผู้เสียหายเอามือกุมสร้อยคอไว้ที่บริเวณหน้าอก แล้วร้องขอความช่วยเหลือ นางกุหลาบที่ไปด้วยกันใช้ร่มตีจำเลย จำเลยจึงปล่อยมือจากสร้อยแล้ววิ่งหนีไป
วินิจฉัยข้อกฎหมายว่า เมื่อสร้อยขาดหลุดจากคอผู้เสียหายเพราะถูกจำเลยกระชาก ในทันใดผู้เสียหายได้ใช้มือกุมสร้อยคอที่หลุดจากคอแต่ยังอยู่ที่บริเวณหน้าอกไว้ได้ทันจำเลยแย่งเอาไปไม่ได้ แม้สร้อยคอจะอยู่ที่มือจำเลยตอนกระชาก ก็เป็นการกระทำในขั้นที่มุ่งหมายจะให้สร้อยขาดหลุดจากคอผู้เสียหายเท่านั้น เมื่อสร้อยขาดแล้ว จำเลยยังไม่ทันยึดถือเอาไป ผู้เสียหายก็กุมสร้อยเอาไว้ได้ การที่จำเลยจะยึดถือเอาสร้อยไปยังไม่บรรลุผลการกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์เท่านั้น
พิพากษายืน