แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ปืนยิงพยายามฆ่าผู้เสียหายเจ้าพนักงานจับจำเลยได้ และได้ปืนลูกกระสุนปืน และปลอกกระสุนปืนที่จำเลยใช้ในการกระทำผิดเป็นของกลางขอให้ลงโทษ โดยมิได้ขอให้ริบของกลางด้วยเมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำเลย แม้จำเลยจะได้เบิกความรับว่าปืนของกลางเป็นปืนที่ไม่มีเครื่องหมายทะเบียนและจำเลยมีไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตศาลก็สั่งริบของกลางไม่ได้ เพราะตามคำฟ้องไม่มีคำขอให้ริบของกลาง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธปืนพกยิงนายดอกรักโดยเจตนาฆ่าแต่ไม่บรรลุผล เพราะไม่ถูกนายดอกรักโดยพลาดไปถูกเด็กชายบุญเลิศได้รับอันตรายแก่กาย เจ้าพนักงานจับจำเลยได้ และได้อาวุธปืนพกโอโตเมติกขนาด 7.65 มิลลิเมตร พร้อมลูกกระสุนปืนขนาด 17.65มิลลิเมตร หนึ่งนัด และปลอกกระสุนปืนขนาด 7.65 มิลลิเมตร 4 ปลอกซึ่งจำเลยใช้ในการกระทำผิดเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 60
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 จำคุก 10 ปี อาวุธปืนของกลางกับกระสุนและปลอกกระสุนปืนของกลางเป็นของที่จำเลยใช้กระทำผิด โจทก์ไม่ขอให้ริบ แต่จำเลยเบิกความรับว่าเป็นอาวุธปืนที่ไม่มีเครื่องหมายทะเบียนของพนักงานเจ้าหน้าที่ และจำเลยมีไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต ของกลางเป็นทรัพย์ที่ผู้ใดมีไว้เป็นความผิด ให้ริบเสีย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น เป็นไม่ริบของกลางนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ริบของกลาง จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำผิดจริงตามที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามาแล้ววินิจฉัยต่อไปว่า คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่าเจ้าพนักงานจับจำเลยได้และได้อาวุธปืนพกโอโตเมติกขนาด 7.65 มิลลิเมตร พร้อมด้วยลูกกระสุนปืนขนาด 7.65 มิลลิเมตร 1 นัดและปลอกกระสุนปืนขนาด 7.65 มิลลิเมตร 4 ปลอก ซึ่งจำเลยใช้ในการกระทำผิดเป็นของกลาง แต่โจทก์มิได้มีคำขอให้ศาลริบของกลาง เมื่อโจทก์มิได้มีคำขอให้ศาลริบของกลางศาลจะริบของกลางไม่ได้ เพราะเป็นการพิพากษาเกินคำขอ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคแรก
พิพากษายืน