คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3102/2551

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันทำละเมิดต่อโจทก์ในการพิจารณาคดีล้มละลาย แต่คำขอท้ายฟ้องมีใจความว่า ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งเพิ่มเติม รายงานกระบวนพิจารณาของศาลล้มละลายกลาง และมีคำสั่งให้ศาลล้มละลายกลางนัดคู่ความมาพร้อมกันแล้วดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปอย่างเที่ยงธรรม หากไม่สามารถทำได้ก็ขอให้ถือเอาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้นแทนคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลล้มละลายกลาง เป็นกรณีที่ไม่มีบทกฎหมายใดให้อำนาจศาลชั้นต้นก้าวล่วงเข้าไปแก้ไขกระบวนพิจารณาในคดีล้มละลายของศาลล้มละลายกลางซึ่งเป็นศาลที่อยู่ในลำดับชั้นเดียวกันได้ ศาลชั้นต้นชอบที่จะไม่รับคดีโจทก์ไว้พิจารณาโดยยกฟ้องโจทก์เสีย เพราะเป็นการวินิจฉัยถึงเนื้อหาแห่งคดีแล้วว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง แทนที่จะสั่งรับหรือไม่รับคำคู่ความตาม ป.วิ.พ. มาตรา 18

ย่อยาว

มูลคดีสืบเนื่องจากธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เป็นโจทก์ฟ้องโจทก์ในคดีนี้กับนางขวัญชนกภริยาของโจทก์เป็นจำเลยต่อศาลล้มละลายกลางขอให้บุคคลทั้งสองเป็นบุคคลล้มละลายซึ่งจำเลยทั้งสามในคดีนี้เป็นผู้พิพากษาผู้นั่งพิจารณาคดีดังกล่าว ระหว่างพิจารณาคดีเรื่องนั้นนางขวัญชนกลูกหนี้ที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้โจทก์ในคดีนี้ซึ่งเป็นลูกหนี้ที่ 1 เข้าแทนที่ลูกหนี้ที่ 2 จำเลยที่ 1 มีคำสั่งอนุญาต ต่อมาวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549 จำเลยทั้งสามได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ โดยแก้ไขคำสั่งเดิมที่จำเลยที่ 1 สั่งอนุญาต และมีคำสั่งเพิ่มเติมว่า ตามคำร้องพอถือได้ว่า ลูกหนี้ที่ 2 มอบอำนาจให้ลูกหนี้ที่ 1 เข้ามาดำเนินคดีแทนตนเอง จึงมีคำสั่งยืนยันคำสั่งอนุญาตที่ได้สั่งไว้แล้ว ซึ่งมีผลให้โจทก์ซึ่งเป็นลูกหนี้ที่ 1 กลายเป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจทั่วไปจากลูกหนี้ที่ 2 โจทก์จึงไม่สามารถว่าความให้แก่ลูกหนี้ที่ 2 ได้ เพราะโจทก์ไม่ได้เป็นทนายความซึ่งได้รับอนุญาตให้ว่าความ การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นการร่วมกันกระทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์จึงฟ้องขอให้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งเพิ่มเติมของศาลล้มละลายกลางเสีย เพิกถอนรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549 ของศาลล้มละลายกลาง ให้ศาลล้มละลายกลางนัดพร้อมคู่ความในคดีดังกล่าวใหม่และดำเนินคดีต่อไปให้เที่ยงธรรม และให้ถือเอาคำพิพากษาอันถึงที่สุดของศาลชั้นต้นแทนคำสั่งลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549 ของศาลล้มละลายกลาง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์ยื่นฟ้องโดยขอให้เพิกถอนคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลล้มละลายกลาง รวมทั้งขอให้เพิกถอนรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549 ของศาลล้มละลายกลาง และขอให้สั่งให้ศาลล้มละลายกลางนัดพร้อมและดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ให้เป็นไปโดยเที่ยงธรรม ยิ่งไปกว่านั้นยังขอให้ถือเอาคำพิพากษาหรือคำสั่งในคดีนี้แทนคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลล้มละลายกลาง อันเป็นการกล่าวอ้างว่าศาลล้มละลายกลางดำเนินกระบวนพิจารณาผิดระเบียบซึ่งโจทก์ชอบที่จะยื่นคำขอเป็นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางขอให้สั่งเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบได้ตามที่ศาลล้มละลายกลางเห็นสมควร ศาลชั้นต้นไม่มีอำนาจเพิกถอนกระบวนพิจารณาของศาลล้มละลายกลาง ไม่รับคำฟ้องของโจทก์ คืนค่าขึ้นศาล 200 บาท ให้แก่โจทก์
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว คดีมีปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของโจทก์ว่า ศาลชั้นต้นควรรับคำฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไปหรือไม่ เห็นว่า ตามคำฟ้องของโจทก์ได้ความว่าคดีที่โจทก์กับนางขวัญชนกถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีล้มละลายอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลล้มละลายกลางไม่อยู่ในอำนาจของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ที่จะพิจารณาพิพากษาคดี ดังนั้น แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสามร่วมกันทำละเมิดต่อโจทก์ในการพิจารณาคดีล้มละลายดังกล่าว แต่คำขอท้ายคำฟ้องของโจทก์มีใจความว่า ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งเพิ่มเติม รายงานกระบวนพิจารณาของศาลล้มละลายกลาง และมีคำสั่งให้ศาลล้มละลายกลางนัดคู่ความมาพร้อมกันแล้วดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปอย่างเที่ยงธรรม หากไม่สามารถทำได้ก็ขอให้ถือเอาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้นแทนคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลล้มละลายกลาง ทั้งที่ไม่มีบทกฎหมายใดให้อำนาจศาลชั้นต้นก้าวล่วงเข้าไปแก้ไขกระบวนพิจารณาในคดีล้มละลายของศาลล้มละลายกลางได้ ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าหากโจทก์ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลล้มละลายกลาง และเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ถูกต้อง โจทก์ก็อาจยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอให้มีคำสั่งแก้ไขกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบเสียให้ถูกต้อง ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 ไม่ชอบที่จะยื่นฟ้องเป็นคดีนี้ การที่ศาลชั้นต้นไม่รับคดีโจทก์ไว้พิจารณานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย เพราะไม่มีเหตุผลที่ศาลชั้นต้นซึ่งเป็นศาลที่อยู่ในลำดับชั้นเดียวกันกับศาลล้มละลายกลางจะมีอำนาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งของศาลล้มละลายกลางได้ อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น แต่ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นไม่มีอำนาจเพิกถอนกระบวนพิจารณาของศาลล้มละลายกลางเป็นการวินิจฉัยถึงเนื้อหาแห่งคดีแล้วว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ได้ ศาลชั้นต้นชอบที่จะยกฟ้องโจทก์เสียแทนที่จะสั่งรับหรือไม่รับคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้อง ไม่คืนค่าขึ้นศาลในศาลชั้นต้นให้แก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นและชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share