แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อตกลงต่อท้ายสัญญาจำนองที่กำหนดว่าจำนวนเงินต้นตามสัญญาไม่ตัดสิทธิผู้รับจำนองจะบังคับจำนองสำหรับต้นเงินที่เกินวงเงินที่กำหนดไว้เพราะมีดอกเบี้ยหรือหนี้อุปกรณ์รวมกันเกินวงเงินที่กำหนดไว้ เป็นข้อตกลง ที่ใช้ได้ เพราะผู้จำนองต้องรับผิดดอกเบี้ยและหนี้อุปกรณ์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 715 อยู่แล้ว แต่ข้อตกลงที่กำหนดให้ ผู้จำนองต้องรับผิดสำหรับต้นเงินที่เกินวงเงินตามสัญญาจำนองไม่ว่าเพราะเหตุใด ๆ นั้น เป็นข้อตกลงที่ทำให้สัญญาจำนองไม่มีจำนวนเงินที่แน่นอนหรือไม่มีจำนวนขั้นสูงสุดที่ได้เอาทรัพย์จำนองตราไว้เป็นประกัน เป็นการฝ่าฝืน ป.พ.พ. มาตรา 708 และเป็นช่องทางให้หลีกเลี่ยงการเสียค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนจำนอง จึงตกเป็นโมฆะไม่มีผลใช้บังคับ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงิน ๔,๖๘๗,๗๔๕.๕๗ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๘.๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๔,๕๓๓,๗๘๓.๒๘ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากไม่ชำระให้ยึดทรัพย์ที่จำนองออกขายทอดตลาด หากไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสี่ขายทอดตลาดชำระหนี้จนครบ
จำเลยทั้งสี่ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๑ ชำระเงินแก่โจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติว่า เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๓๔ จำเลยที่ ๑ ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีกับโจทก์ สาขาบางเขน ในวงเงิน ๒,๗๐๐,๐๐๐ บาท โดยยอมเสียดอกเบี้ยแก่โจทก์ในประเภทดอกเบี้ยทบต้น ในขณะ ทำสัญญาเท่ากับอัตราร้อยละ ๑๙ ต่อปี วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๓๔ จำเลยที่ ๑ ขอลดวงเงินลง ๓๘๔,๘๐๐ บาท จึงเหลือ วงเงินกู้เบิกเกินบัญชี ๒,๓๑๕,๒๐๐ บาท ต่อมาจำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๔ นำที่ดินมาจำนองเพื่อเป็นประกัน หากบังคับจำนองแล้วไม่พอชำระหนี้ยอมชำระส่วนที่ขาดจนครบ หลังจากนั้นจำเลยที่ ๑ เบิกเงินเกินบัญชีโดยการใช้เช็ค เมื่อคิดถึงวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๓๙ จำเลยที่ ๑ เป็นหนี้โจทก์หลังจากหักทอนบัญชีแล้วจำนวน ๔,๕๓๓,๗๘๓.๒๘ บาท โจทก์มีหนังสือทวงถามและบอกกล่าวบังคับจำนองไปยังจำเลยทั้งสี่แล้ว แต่จำเลยทั้งสี่เพิกเฉย
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า โจทก์มีสิทธิบังคับจำนองจากทรัพย์สินที่จำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๔ จำนองเป็นประกันหนี้แก่โจทก์ไว้เพียงใดนั้น
เห็นว่า ในส่วนข่อตกลงต่อท้ายสัญญาจำนองที่ว่า การกำหนดจำนวนต้นเงินตามสัญญาจำนองไม่ตัดสิทธิผู้รับจำนองที่จะบังคับจำนองสำหรัดบต้นเงินที่เกินวงเงินที่กำหนดไว้เพราะมีดอกเบี้ยหรือหนี้อุปกรณ์รวมกันเกินวงเงินที่กำหนดไว้เป็นข้อตกลงที่ใช้ได้เฉพาะจำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๔ ผู้จำนองต้องรับผิดดอกเบี้ย และหนี้อุปกรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๗๑๕ อยู่แล้ว แต่ข้อตกลงที่กำหนดให้จำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๔ ผู้จำนองต้องรับผิดสำหรับต้นเงินที่เกินวงเงินตามสัญญาจำนองไม่ว่าเพราะเหตุใด ๆ นั้น เป็นข้อตกลงที่ทำให้สัญญาจำนองไม่มีจำนวนเงินที่แน่นอน หรือไม่มีจำนวนขั้นสูงสุดที่ได้เอาทรัพย์จำนองตราไว้เป็นประกันเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๗๐๘ และเป็นช่องทางให้หลีกเลี่ยงการเสียค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนจำนอง จึงตกเป็นโมฆะไม่มีผลใช้บังคับ
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ