คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9329/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้เพิกถอนการไต่สวนมูลฟ้อง และยกคำร้องของจำเลย เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน ต้องห้ามอุทธรณ์ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 196

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ขอให้ลงโทษตาม ป.อ. มาตรา ๓๒๖, ๓๒๘, ๘๓ และให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน ๒๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๔๒ เวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกา โดยส่งหมายนัดและสำเนาคำฟ้อง ให้จำเลยที่ ๑ ณ ภูมิลำเนาตามฟ้องด้วยวิธีปิดหมาย ในวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง จำเลยที่ ๑ ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นจึงไต่สวนพยานโจทก์ไปได้ ๑ ปาก จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ยังถามค้านไม่เสร็จขอเลื่อนคดีไปนัดไต่สวนมูลฟ้องใหม่ในวันที่ ๒๒ และ ๒๓ มีนาคม ๒๕๔๒ เวลา ๙ นาฬิกา และ ๑๓.๓๐ นาฬิกา ศาลชั้นต้นอนุญาต ก่อนถึงวันนัดดังกล่าว จำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้องอ้างว่าการส่งหมายนัดและสำเนาคำฟ้องโดยวิธีปิดหมายไม่ชอบ ขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ส่งหมายนัดและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ ๑ ใหม่ แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ต่อไป
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า การส่งหมายนัดและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ ๑ ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งคดีอยู่ระหว่าง ทนายจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ถามค้าน จำเลยที่ ๑ มีโอกาสถามค้านพยานโจทก์ได้ จึงไม่มีเหตุเพิกถอนการไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๔๒ ให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๘ พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยที่ ๑
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เพิกถอนการไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๔๒ ให้ยกคำร้องของจำเลยที่ ๑ เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน เพราะคดีจะต้องพิจารณาต่อไป จึงต้องห้ามอุทธรณ์ตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๑๙๖ ศาลอุทธรณ์ภาค ๘ พิพากษายกอุทธรณ์ ของจำเลยที่ ๑ ชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยที่ ๑ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน .

Share