คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2806/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ศาลมีคำสั่งแต่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายผู้คัดค้านกับพวกซึ่งเป็นทายาทของผู้ตายไปพบผู้ร้องเพื่อให้แบ่งที่ดินมรดก แต่ผู้ร้องไม่ยอมแบ่งให้โดยอ้างว่าผู้ตายยกที่ดินดังกล่าวให้ผู้ร้องก่อนแล้ว ดังนี้ เป็นการโต้แย้งสิทธิในที่ดินดังกล่าว หาใช่เป็นเรื่องที่ผู้ร้องไม่ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการมรดกหรือมีเหตุอื่นอันสมควรให้ศาลถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกไม่

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจาก ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งแต่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนางลิ้ม ผู้ตาย ผู้คัดค้านยื่นคำร้องว่าผู้คัดค้านและทายาทอื่นจึงไปพบผู้ร้องเพื่อขอให้แบ่งทรัพย์มรดกแต่ผู้ร้องไม่แบ่งให้ ถือได้ว่ามีเจตนาที่จะเบียดบังทรัพย์มรดกเป็นของตนแต่ผู้เดียว และเป็นการละเลยไม่กระทำตามหน้าที่ของผู้จัดการมรดกจึงขอให้มีคำสั่งให้การจัดการมรดกของผู้ร้องเป็นโมฆะและถอนผู้ร้องออกจากการเป็นผู้จัดการมรดก
ผู้ร้องคัดค้านว่า ที่ดินตาม ส.ค.1 เลขที่ 13 ผู้ตายได้ยกให้แก่ผู้ร้องก่อนที่จะถึงแก่ความตาย ขอให้ยกคำร้องของผู้คัดค้าน
ศาลชั้นต้นพิพากษายกคำร้อง
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว คงมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้คัดค้านว่า ผู้ร้องละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่สมควรถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกของนางลิ้มหรือส้มลิ้มเพ็ญจันทร์ ผู้ตายหรือไม่ เห็นว่า ตามคำร้อง คำคัดค้านและพยานผู้ร้องกับพยานผู้คัดค้าน ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้คัดค้านนายบุญช่วย เพ็ญจันทร์ และนางแฉล้ม เริ่มทอง ทายาทของผู้ตายได้ไปพบผู้ร้องขอแบ่งที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 13 หมู่ที่ 11ตำบลตะเคียนเลื่อน อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์อ้างว่าเป็นทรัพย์มรดก แต่ผู้ร้องไม่ยอมแบ่งให้โดยอ้างว่าผู้ตายยกที่ดินส่วนของผู้ตายให้ผู้ร้องมานานกว่า 20 ปีแล้ว จึงเป็นการโต้แย้งสิทธิในที่ดินดังกล่าว หาใช่เป็นเรื่องที่ผู้ร้องไม่ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการมรดกตามที่ผู้คัดค้านฎีกาหรือมีเหตุอื่นอันสมควรให้ศาลถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกไม่ ทั้งไม่ปรากฏว่าผู้ร้องไม่สามารถหรือไม่เต็มใจจัดการแต่ประการใด ศาลอุทธรณ์ภาค 2พิพากษาชอบแล้วฎีกาของผู้คัดค้านฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share