คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาลระบุว่าทรัพย์ส่วนใดแบ่งให้โจทก์และทรัพย์ส่วนใดแบ่งให้จำเลย ทรัพย์ที่โจทก์จำเลยได้รับแบ่งไปเป็นส่วนของตนนี้มีสัญญายอมความอีกข้อหนึ่งบังคับไว้ว่า ทั้งโจทก์จำเลยจะต้องทำพินัยกรรมยกทรัพย์นั้น ๆ ให้แก่บุตรของโจทก์และจำเลย ต่อมาโจทก์เอาทรัพย์ส่วนแบ่งตาม สัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งมีข้อผูกมัดให้โจทก์ต้องทำพินัยกรรม ยกให้แก่บุตรนั้นไปขายให้แก่บุคคลอื่นเสียบางส่วน เช่นนี้จึงเป็นกรณี ที่ไม่สามารถจะบังคับให้โจทก์ผู้เป็นลูกหนี้ปฏิบัติตามคำบังคับที่จำเลยร้องขอให้จับขังโจทก์ได้ กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 297 ที่ศาลจะมีคำสั่งจับกุมและกักขังโจทก์ ผู้เป็นลูกหนี้ให้ ปฏิบัติตามคำพิพากษาได้

ย่อยาว

คดีนี้ มูลกรณีเดิม โจทก์ฟ้องขอหย่าและแบ่งทรัพย์จากจำเลยซึ่งเป็นสามีคู่ความทำสัญญาประนีประนอมกันในศาล ศาลพิพากษาตามยอมมีข้อความตามสัญญายอมเท่าที่เกี่ยวเป็นปัญหาเรื่องนี้ข้อ 2 กับข้อ 3 ระบุว่าทรัพย์ส่วนใดแบ่งให้เป็นของโจทก์ และทรัพย์ส่วนใดแบ่งให้เป็นของจำเลย ทรัพย์ที่โจทก์และจำเลยได้รับแบ่งไปเป็นส่วนของตนนี้มีสัญญายอมความข้อ 8 บังคับไว้ว่า ทั้งโจทก์จะต้องทำพินัยกรรมยกทรัพย์นั้น ๆ ให้แก่นางฝุ่น นางรอง นางอุ่นและนายพล บุตรซึ่งเกิดแต่โจทก์และจำเลย ส่วนจำเลยก็จะต้องทำพินัยกรรมยกทรัพย์นั้น ๆ ให้แก่นางฤทธิ นางฟุ้ง และนางเฟื่อง บุตรซึ่งเกิดแก่โจทก์และจำเลยเช่นกัน

บัดนี้ จำเลยได้ยื่นคำร้องชั้นบังคับคดี ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2509 ว่า โจทก์ไม่ปฏิบัติตามสัญญายอมความข้อ 2 ข้อ 8 คือ โจทก์ได้เอาทรัพย์ส่วนแบ่งตามสัญญายอมความข้อ 2 มีข้อผูกมัดให้โจทก์ต้องทำพินัยกรรมยกให้แก่บุตรอยู่ตามสัญญายอมความข้อ 8 นั้นไปขายให้แก่บุคคลอื่นเสียบางส่วนเป็นราคา 40,000 บาท เป็นการผิดสัญญายอมความและขัดขืนคำบังคับขอให้หมายเรียกตัวโจทก์มาสอบถามและบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญายอมความ ถ้าไม่ปฏิบัติตามขอให้ศาลขังโจทก์ไว้จนกว่าจะได้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาล

ศาลเรียกโจทก์มาสอบถาม โจทก์ว่ามีสิทธิขายได้ ศาลชั้นต้นสั่งว่ากรณีนี้สภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้ยึดทรัพย์จับกุมจำขังโจทก์ ให้ยกคำร้อง

จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลจับกุมคุมขังโจทก์ โจทก์อุทธรณ์ว่าตามสัญญาประนีประนอมยอมความไม่ได้ห้ามไม่ให้ขาย

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยมายื่นคำร้องชั้นบังคับคดีขอให้ศาลบังคับจับขังโจทก์ในเมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ขายทรัพย์ตามพินัยกรรมที่ได้ทำไว้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความไปเสียแล้วเช่นนี้ จึงเป็นกรณีที่ไม่สามารถจะบังคับให้โจทก์ผู้เป็นลูกหนี้ปฏิบัติตามคำบังคับที่จำเลยขอมานั้นได้ กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 297 ที่ศาลจะมีคำสั่งจับกุมและกักขังโจทก์ผู้เป็นลูกหนี้ให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาได้

พิพากษายืน

Share