แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ขายสิทธิเรียกร้องเงินเหรียญฮ่องกง ให้จำเลยโดยโจทก์ออกตั๋วแสดงว่าจำเลยมีสิทธิเรียกร้องจำนวนเงินเหรียญดังกล่าวจากอีกบริษัทหนึ่งและจำเลยสัญญาจะจ่ายเงินไทยให้โจทก์ตามอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเอกสารนั้นไม่ระบุว่าเป็นตั๋วแลกเงินประเภทใดและไม่มีลักษณะให้เห็นว่าเปลี่ยนมือกันได้จึงไม่มีสภาพเป็นตั๋วเงินและถืออายุความ3 ปี อย่างตั๋วเงินไม่ได้
ย่อยาว
คดีสู่ศาลฎีกาเฉพาะที่เกี่ยวกับโจทก์และจำเลยบางคน จำเลยที่ 3โจทก์ถอนฟ้องเสร็จไปแล้ว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นหุ้นส่วนประกอบการค้า นามสมญาว่า”เซ่งซุ้นหลี” ไม่ได้จดทะเบียนหุ้นส่วน
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 84 โจทก์ขายสิทธิเรียกร้องเงินเหรียญฮ่องกง 23,529.40เหรียญให้จำเลย โดยโจทก์ออกตั๋วแสดงว่าจำเลยมีสิทธิเรียกร้องเงินจำนวนที่กล่าวนั้นจากยี่ห้อ ตั้งบ้วนฮวด ที่ฮ่องกง และฝ่ายจำเลยสัญญาจะชำระค่าตอบแทนให้โจทก์เป็นเงินตราไทยมูลค่าเท่ากับเงินตราฮ่องกง 23,529.40 เหรียญ อัตราแลกเปลี่ยนถือตามอัตราท้องตลาดในวันจ่ายเงิน ตามเอกสารท้ายฟ้องหมาย 1 และ 2
จำเลยได้รับเงินเหรียญแล้วผิดนัดไม่ชำระเงินตราไทยให้แก่โจทก์อัตราแลกเปลี่ยนในวันผิดนัด 1 เหรียญต่อ 3.59 บาท โจทก์จึงฟ้องเรียกเงิน 84,470.55 บาท และดอกเบี้ย
จำเลยต่อสู้หลายประการเฉพาะที่เป็นข้อโต้เถียงชั้นฎีกาจำเลยต่อสู้ว่า 1. เอกสารท้ายฟ้องเป็นตั๋วเงิน โจทก์ฟ้องคดีเมื่อเกิน 3 ปี ขาดอายุความ2. เซ่งซุ่นหลี (หมายถึงนายสมญาฝ่ายจำเลย) ยังไม่ได้รับเงินเหรียญฮ่องกง 3. การที่นายก๊กเฮี้ยง จำเลยที่ 3 ออกหลักฐานการเงินมิใช่เป็นไปในทางการค้าของเซ่งซุ่นหลี จำเลยไม่ต้องรับผิด
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าเอกสารท้ายฟ้องไม่ใช่ตั๋วเงินคดีจึงไม่ขาดอายุความเงินเหรียญฮ่องกงจำนวนที่โจทก์ฟ้อง “เซ่งซุ่นหลี” รับไปแล้ว และจำเลยต้องจ่ายเงินตราไทยให้โจทก์ในอัตราแลกเปลี่ยน 100 ต่อ 200 เหรียญ พิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ 11,764.70 บาท กับดอกเบี้ย
โจทก์และจำเลย ที่ 1 ที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์และจำเลยที่ 1 กับพวก ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าเอกสารท้ายฟ้องไม่ได้ระบุว่าเป็นตั๋วเงินประเภทใดและไม่มีลักษณะให้เห็นว่าเปลี่ยนมือกันได้จึงไม่ใช่ตั๋วเงิน คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
“เซ่งซุ่นหลี” ได้รับเงินไปแล้วโดยมีดวงตาประทับอยู่ในเอกสารแสดงการรับเงิน และจำเลยที่ 3 ก็ยืนยันว่า “เซ่งซุ่นหลี”
เคยบอกโจทก์ให้มารับเงิน (ไทย) แต่โจทก์ยังไม่ได้รับไปเพราะยังไม่ได้ตกลงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน
การออกหลักฐานการเงินนี้เป็นไปในทางการค้าของ “เซ่งซุ่นหลี” จำเลยที่ 1 กับพวกต้องรับผิด
ส่วนข้อที่โจทก์ฎีกาว่าเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนจำเลยไม่ได้ต่อสู้จึงต้องถือตามอัตราแลกเปลี่ยนที่โจทก์กล่าวอ้างนั้นเห็นว่านายก๊กเฮี้ยง จำเลยที่ 4 ได้โต้เถียงมาแต่ต้นแล้ว ตามที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์กำหนดอัตราแลกเปลี่ยน100 บาท ต่อ 200 เหรียญนั้นสมควรแล้ว
พิพากษายืน