แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องโจทก์บรรยายข้อความพอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาและต่อสู้คดีได้ถูกต้อง แม้จะไม่แสดงรูปแผนที่สังเขปของที่พิพาทแนบท้ายฟ้องไว้ตามคำให้การของจำเลยก็ไม่ปรากฏว่าหลงข้อต่อสู้ จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
จำเลยเข้าแย่งการครอบครองที่ดินตาม ส.ค.1 ของโจทก์ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2519 โจทก์ฟ้องคดีเมื่อเดือนมีนาคม 2521เกินกำหนดหนึ่งปี จึงเสียสิทธิที่จะเอาคืนซึ่งการครอบครองแม้จะปรากฏว่าในฤดูทำนา ปี พ.ศ.2519 เกิดน้ำท่วมข้าวเสียหาย จนฤดูทำนาปี พ.ศ.2520 จำเลยจึงกลับเข้าทำนาใหม่ ต้องถือว่าเป็นเหตุอันมีสภาพเป็นเหตุชั่วคราวมาขัดขวาง มิให้จำเลยยึดถือที่พิพาท การครอบครองของจำเลยไม่สิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1377 วรรคสอง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาทซึ่งได้แจ้งการครอบครองไว้เมื่อ พ.ศ. 2498 ครั้นวันที่ 2 กรกฎาคม 2520 จำเลยทั้งสองบุกรุกเข้าไถที่พิพาท ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่าโจทก์ไม่ใช่เจ้าของที่พิพาท เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2520 จำเลยที่ 2 ใช้รถไถที่ดินของจำเลยที่ 2 ส่วนจำเลยที่ 1 มิได้เกี่ยวข้องด้วย คดีโจทก์ขาดอายุความเพราะมิได้ฟ้องภายใน 1 ปี ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะไม่มีแผนที่สังเขปท้ายฟ้องจำเลยไม่เข้าใจว่าเป็นที่ดินแปลงใด
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม จำเลยเข้าทำนาในที่พิพาทเป็นการแย่งการครอบครองของโจทก์ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2519 โจทก์ฟ้องคดีเกินกว่า 1 ปี ไม่จำต้องวินิจฉัยเรื่องค่าเสียหาย ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม การที่จำเลยใช้รถเข้าไปไถที่พิพาทของโจทก์ในเดือนตุลาคม 2519 แล้วหว่านข้าวลงไป ต่อมาน้ำท่วมข้าวที่หว่านเสียหายหมดไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเข้ายึดถือครอบครองเอาที่พิพาทของโจทก์อีก จึงเป็นเพียงการรบกวนการครอบครองที่พิพาทของโจทก์ชั่วระยะหนึ่งคราวเดียวเท่านั้นถือไม่ได้ว่าโจทก์ถูกแย่งการครอบครอง พิพากษากลับว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ให้ขับไล่จำเลยทั้งสองออกจากที่พิพาทกับให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่าฟ้องเคลือบคลุมเห็นว่าฟ้องโจทก์บรรยายข้อความพอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาและต่อสู้คดีได้ถูกต้องแม้จะไม่แสดงรูปแผนที่สังเขปของที่พิพาทแนบท้ายฟ้อง คำให้การของจำเลยก็ไม่ปรากฏว่าหลงข้อต่อสู้จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเข้าแย่งการครอบครองที่ดินตาม ส.ค.1 ของโจทก์ตั้งแต่เดือนตุลาคม2519 โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อเดือนมีนาคม 2521 เกินกำหนดหนึ่งปี จึงเสียสิทธิที่จะเอาคืนซึ่งการครอบครอง แม้จะได้ความว่าฤดูทำนาปี พ.ศ. 2519 เกิดน้ำท่วมข้าวเสียหาย จนฤดูทำนาปี พ.ศ. 2520 จำเลยจึงกลับเข้าทำนาใหม่ ต้องถือว่าเป็นเหตุอันมีสภาพเป็นเหตุชั่วคราวมาขัดขวางมิให้จำเลยยึดถือที่พิพาทการครอบครองของจำเลยไม่สิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377 วรรคสอง จำเลยทั้งสองไม่ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง