แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 14 ทวิ ซึ่งเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. การพนัน (ฉบับที่ 3) 2485 มาตรา 3 ได้บัญญัติการเพิ่มโทษผู้กระทำผิดกฎหมายซ้ำไว้เป็นพิเศษ
โทษจำคุกในเรื่องการพนันที่ยังอยู่ในระหว่างรอการลงโทษนั้นไม่ถือว่าพ้นโทษไปแล้ว ฉะนั้นผู้ที่ทำผิด พ.ร.บ. การพนันซ้ำในระหว่างรอการลงโทษจำคุกในคดีก่อน ยอมจะถูกเพิ่มโทษไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสี่กับพวกได้สมคบกันเล่นการพนันสลากกินรวบโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษจำเลยที่ ๑ กับบวกโทษที่รอไว้ในคดีก่อนด้วย
จำเลยทั้ง ๔ ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้ง ๔ มีความผิดตาม พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๑๒ (๒) พ.ร.บ. การพนัน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๔๘๕ มาตรา ๔ เฉพาะจำเลยที่ ๑ ต้องระวางโทษเพิ่มตามมาตรา ๑๔ ทวิ (๒) แห่ง พ.ร.บ. การพนัน (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๘๕ มาตรา ๓ ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๑ ๖๐ วัน ปรับ ๑,๒๐๐ บาท ลดโทษให้ ๑ ใน ๓ เหลือโทษจำคุก ๔๐ วัน ปรับ ๘๐๐ บาท และให้นำโทษที่รอไว้ในคดีก่อนมาบวกรวมโทษจำคุก ๘๕ วัน ปรับ ๘๐๐ บาท ลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๒ ๖๐ วัน ปรับ ๙๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอไว้ ปรับจำเลยที่ ๓ และที่ ๔ เพียง ๖๐๐ บาท ลดโทษให้จำเลยที่ ๒, ๓, ๔ คนละ ๑ ใน ๓ ด้วย
จำเลยทั้ง ๔ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยทั้ง ๔ ได้กระทำผิดจริง แต่ข้อที่ศาลชั้นต้นวางโทษเพิ่มแก่จำเลยที่ ๑ นั้นเห็นว่าไม่ถูกต้อง พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๖๐ วัน ปรับ ๙๐๐ บาท โดยไม่เพิ่มโทษ ลดเพราะมีเหตุบรรเทาโทษ คงจำคุก ๔๐ วัน ปรับ ๖๐๐ บาท เอาโทษที่รอไว้มาบวกเข้ากับคดีนี้ด้วย
โจทก์ฎีกาขอให้เพิ่มโทษจำเลยที่ ๑
ศาลฎีกาเห็นว่า พ.ร.บ. การพนัน ๒๔๗๘ มาตรา ๑๔ ทวิ ซึ่งเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. การพนัน (ฉบับที่ ๓) ๒๔๘๕ มาตรา ๓ ได้บัญญัติการเพิ่มโทษผู้กระทำผิดพระราชบัญญัตินี้ซ้ำเป็นครั้งที่ ๒ ไว้เป็นพิเศษ เมื่อจำเลยที่ ๑ ได้กระทำผิดคดีนี้ในระหว่างรอการลงโทษจำคุกในคดีก่อน ก็ต้องถือว่ายังไม่พ้นโทษ จะเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา ๑๔ ทวิ ดังกล่าวแล้วหาได้ไม่ ข้อความตามมาตรา ๑๔ ทวิ เป็นเงื่อนไขในการเพิ่มโทษ หาใช่เป็นเงื่อนไขที่จำเลยผู้กระทำผิดซ้ำสองจะไม่ต้องถูกเพิ่มโทษดังฎีกาของโจทก์ไม่ เพราะถ้าหากกฎหมายประสงค์เช่นนั้นตามมาตรา ๑๔ ทวิ แห่ง พ.ร.บ. การพนันก็ไม่จำต้องมีคำว่า “เมื่อพ้นโทษแล้ว” เอาไว้ด้วย เห็นว่าโทษจำคุกที่รอไว้ จำเลยยังไม่ได้รับจริง
เมื่อยังอยู่ในระหว่างที่รอไว้ก็ไม่เรียกว่าพ้นโทษไปแล้ว จะเพิ่มโทษจำเลยที่ ๑ ไม่ได้ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน