คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 308/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ที่ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก 12 ปี ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ระหว่างต้องโทษได้กระทำผิดฐานฆ่าคนตายซ้ำอีก นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 93 ย่อมเข้าเกณฑ์ที่จะต้องเพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่งตามโทษที่ศาลกำหนด สำหรับความผิดครั้งหลังด้วย
โทษจำคุกตลอดชีวิตนั้น เมื่อมีกรณีเพิ่มโทษและลดโทษเสมอกันแล้ว ก็ย่อมหักกลบลบกันได้

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซึ่งเป็นนักโทษ ได้บังอาจใช้ขวานฟันนายทา ผู้ต้องขังบริเวณคอโดยเจตนาฆ่า นายทาได้ถึงแก่ความตาย และจำเลยได้ใช้ขวานฟัน น.ช. จั๊ว น.ช. ตี๋ น.ช. ชู และนายเหว่า ผู้คุมขณะปฏิบัติหน้าที่ ถูกหน้าและร่างกายคนละหลายแห่งถึงสาหัส ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดจริง ให้รวมกระทงลงโทษโดยลงบทหนักตามมาตรา ๒๘๘ จำคุกจำเลยตลอดชีวิต จำเลยรับสารภาพปราณีลดโทษกึ่งหนึ่งตามมาตรา ๗๘ คงจำคุก ๑๒ ปี นับโทษต่อจากคดีแดงที่ ๔๗๗/๒๔๙๗ คำขอเพิ่มโทษให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ขอให้เพิ่มโทษจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลยตลอดชีวิต นอกจากนี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาในข้อที่ศาลให้เพิ่มโทษจำเลย
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้จำเลยได้กระทำผิดฐานฆ่าคนตาย ศาลพิพากษาจำคุกคดีถึงที่สุดแล้ว จำเลยกำลังรับโทษตามคำพิพากษาอยู่ ในระหว่างนี้ จำเลยได้กระทำผิดฐานทำร้ายร่างกายและฆ่าคนตายโดยเจตนา ศาลชั้นต้นวางบทกำหนดโทษจำคุกจำเลยตลอดชีวิต และลดโทษให้กึ่งหนึ่งเพราะรับสารภาพ แต่เห็นว่าจำเลยยังไม่พ้นโทษ จึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้ ซึ่งศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย
ได้พิเคราะห์แล้ว ปรากฏว่าจำเลยนี้ต้องโทษฐานฆ่าคนตาย ศาลจำคุก ๑๒ ปี คดีถึงที่สุด ระหว่างต้องโทษอยู่นี้ จำเลยได้กระทำผิดฐานฆ่าคนตายซ้ำอีก ฉะนั้น จึงเข้าเกณฑ์ที่จะต้องเพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่งของโทษที่ศาลกำหนดสำหรับความผิดครั้งหลัง คือความผิดในคดีนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๓ อนุมาตรา ๑๑ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share