คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 277/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวมโดยอาศัยเลขท้ายของสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นการรับกินรับใช้นั้น เพียงแต่จำเลยทำการขายสลากไป ก็ถือได้แล้วว่า จำเลยได้จัดให้มีการเล่นการพนัน เป็นความผิดสำเร็จตามกฎหมายแล้ว ฉะนั้น ถึงแม้สลากกินแบ่งของรัฐบาลจะยังไม่ออกหรือยังไม่ทราบผลแพ้ชนะ และคนซื้อสลากจากจำเลยเป็นคนที่เจ้าพนักงานตำรวจให้ไปซื้อ ก็ไม่เป็นเหตุที่จำเลยจะอ้างมาเป็นข้อแก้ตัวได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจัดให้มีการเล่นสลากกินรวบ โดยอาศัยเลขท้าย ๒ ตัวของรางวันที่ ๑ สลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นการรับกินรับใช้ อันเป็นการพนันประเภทตามบัญชี ข. เลขหมายอันดับ ๑๖ ท้าย พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ โดยพวกของจำเลยที่ยังจับตัวไม่ได้เป็นผู้ร่วมเล่นพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายขอให้ลงโทษและริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยกระทำผิดดังฟ้อง ให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๔, ๑๒ จำเลยเคยต้องโทษตาม พ.ร.บ. การพนัน พ้นโทษมายังไม่ครบ ๓ ปี ให้วางโทษจำคุก ๒ เดือน ปรับ ๑,๒๐๐ บาท ของกลางให้ริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ซึ่งศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาจำเลยเฉพาะที่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า เพียงแต่จำเลยทำการขายสลากกินรวบไป ก็ถือได้แล้วว่า จำเลยได้จัดให้มีการเล่นการพนัน เป็นความผิดสำเร็จตามกฎหมายแล้ว การที่สลากกินแบ่งของรัฐบาลยังไม่ออกหรือยังไม่ทราบผลแพ้ชนะ และคนซื้อสลากจากจำเลยเป็นคนที่เจ้าพนักงานตำรวจให้ไปซื้อนั้น ไม่เป็นเหตุที่จำเลยจะอ้างมาเป็นข้อแก้ตัวได้ ศาลฎีกาก็ได้วินิจฉัยไว้แล้วว่า การขายสลากให้แก่ตำรวจซึ่งปลอมตัวไปซื้อก็มีความผิด ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลย

Share