คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2736/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หากศาลมีคำสั่งอนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209 วรรคแรก แล้วกระบวนพิจารณาที่ให้ถือว่าเป็นอันเพิกถอนไปในตัวก็มีคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลโดยคู่ความขาดนัด คำพิพากษาหรือ คำสั่งอื่น ๆของศาลสูงในคดีเดียวกันนั้น และวิธีการบังคับคดีที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เท่านั้นหาได้ให้เพิกถอน กระบวนพิจารณาเช่นที่โจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้ก่อนแล้วไม่บัญชีระบุพยานเดิมของโจทก์จึงยังคงอยู่และถือว่าโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิขอระบุพยานเพิ่มเติมได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดชำระหนี้ในฐานะผู้ค้ำประกันและยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีที่ห้างหุ้นส่วน จำกัด แผ่นเสียงกิ้มฮวดทำไว้แก่โจทก์
จำเลยไม่ยื่นคำให้การภายในกำหนด ศาลมีคำสั่งให้จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๔ โจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานเมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๔ ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยไม่มาศาล ศาลมีคำสั่งให้จำเลยขาดนัดพิจารณาและได้พิจารณาคดีไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงินให้แก่โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ศาลไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่ตั้งแต่จำเลยขาดนัดและสั่งให้จำเลยยื่นคำให้การ
จำเลยให้การว่าไม่เคยทำสัญญาค้ำประกันตามฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก โจทก์ยื่นคำแถลงขอระบุพยานเพิ่มเติมและขอเลื่อนคดีอ้างว่ายังเตรียมเอกสารไม่พร้อมและพยานป่วยมาศาลไม่ได้จำเลยแถลงคัดค้านอ้างว่าโจทก์มิได้ระบุพยานที่จะนำสืบไว้ โจทก์แถลงโต้แย้งว่าได้ระบุพยานไว้แล้วตั้งแต่วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๔
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๐๙ วรรคสอง ให้ศาลพิจารณาคดีนั้นใหม่ตั้งแต่เวลาที่ขาดนัด คดีนี้ปรากฏว่าศาลมีคำสั่งให้จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๔ โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานเมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๔ ซึ่งเป็นเวลาภายหลังที่ศาลสั่งให้จำเลยขาดนัดดังกล่าว โจทก์มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีระบุพยานใหม่ เมื่อโจทก์ไม่ยื่นบัญชีระบุพยานไว้และจำเลยคัดค้านการขอเลื่อน จึงไม่มีเหตุที่จะให้เลื่อนคดี และถือว่าโจทก์ไม่มีพยานเข้าสืบ แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานจำเลยต่อไปจนเสร็จสำนวนและได้พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นในข้อที่ว่า โจทก์จะต้องยื่นบัญชีระบุพยานใหม่ไม่รับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม และในข้อที่ไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งและคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยให้ศาลชั้นต้นรับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมของโจทก์และอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดี แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๐๙ วรรคแรก บัญญัติไว้ใจความว่า หากศาลมีคำสั่งอนุญาตตามคำขอให้พิจารณาใหม่แล้วกระบวนพิจารณาที่ให้ถือว่าเป็นอันเพิกถอนไปในตัวก็มีคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลโดยคู่ความขาดนัด คำพิพากษาหรือคำสั่งอื่น ๆ ของศาลสูงในคดีเดียวกันนั้น และวิธีการบังคับคดีที่ได้ดำเนินการไปแล้วเท่านั้น หาได้ให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาเช่นที่โจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้ก่อนแล้วไม่ และคดีนี้ศาลชั้นต้นก็ไม่ได้มีคำสั่งเพิกถอนกระบวนพิจารณาในเรื่องที่โจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้วแต่อย่างใดบัญชีระบุพยานเดิมของโจทก์จึงยังคงอยู่ ส่วนมาตรา ๒๐๙ วรรคสอง ที่ว่าให้ศาลพิจารณาคดีนั้นใหม่ตั้งแต่เวลาที่ขาดนัดอันหมายความถึงการขาดนัดพิจารณาหาใช่ขาดนัดยื่นคำให้การไม่ เพราะมาตรา ๒๐๙ นี้เกี่ยวเนื่องมาจากมาตรา ๒๐๗และ ๒๐๘ แต่เมื่อคดีนี้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การใหม่ได้ การพิจารณาจึงย้อนกลับไปถึงขณะเริ่มต้นสืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๙๙ ซึ่งศาลชั้นต้นจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานต่อไป เมื่อบัญชีระบุพยานเดิมของโจทก์ไม่ได้ถูกเพิกถอนก็ต้องถือว่าโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิที่จะขอระบุพยานเพิ่มเติมได้อีกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๘ วรรคสอง
พิพากษายืน

Share