แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยปลูกกัญชา 16 ต้น และมีกัญชาสด 16 ต้น กับมีกัญชาแห้ง 3 ต้นไว้ในครอบครองกัญชาสด 16 ต้นเป็นจำนวนเดียวกับกัญชาที่จำเลย ปลูกจึงเป็นผลที่เกิดจากการ ผลิตกัญชาโดยการปลูกของจำเลยนั่นเอง ในส่วนกัญชา 16 ต้นย่อมเป็นความผิดกรรมเดียว ส่วนกัญชาแห้งอีก 3 ต้นเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จำเลยมีไว้ในครอบครองซึ่งไม่เกี่ยวกับการปลูกกัญชา16 ต้น ดังกล่าวเลยจึงเป็นความผิดอีกกรรมหนึ่งต่างหาก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 7, 26, 75, 76, 102, 103 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 7, 26, 75, 76, 102, 103 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 7, 26, 75 ของกลางริบ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานมีกัญชาแห้งไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอีกกระทงหนึ่ง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยปลูกกัญชาจำนวน 16 ต้นและมีกัญชาสด 16 ต้นหนัก 16 กิโลกรัม กับมีกัญชาแห้ง 3 ต้นหนัก 1 กิโลกรัมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจริง คดีมีปัญหาตามที่จำเลยฎีกาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดสองกรรมซึ่งต้องลงโทษทุกกรรมหรือไม่ เห็นว่า สำหรับกัญชาสดจำนวน 16 ต้นที่จำเลยมีไว้ในครอบครองนั้น เป็นกัญชาจำนวนเดียวกับกัญชาที่จำเลยปลูกนั่นเอง กัญชาจำนวนนี้จึงเป็นผลที่เกิดจากการผลิตกัญชาโดยการปลูกของจำเลยซึ่งมีได้มีการกระทำอย่างใดอันมีลักษณะเป็นการกระทำให้ได้กัญชาจำนวนนี้ไว้ในครอบครองขึ้นอีก ฉะนั้น ในส่วนกัญชา 16 ต้นนี้การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท สำหรับกัญชาแห่งอีก 3 ต้นเป็นกัญชาอีกส่วนหนึ่งที่จำเลยมีไว้ในครอบครองซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการปลูกกัญชา 16 ต้นเลย การกระทำของจำเลยส่วนนี้จึงเป็นความผิดอีกกรรมหนึ่งต่างหากฯ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน