คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2723/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ร่วมทำหนังสือมอบอำนาจให้จำเลยโอนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้จำเลยนำไปจดทะเบียนจำนองเป็นประกันค่าเสียหายที่จำเลยไปทำงานเป็นพนักงานเก็บเงินค่ากระแสไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแต่จำเลยนำไปจดทะเบียนโอนที่ดินดังกล่าวเป็นของจำเลยซึ่งไม่ตรงกับเจตนาของโจทก์ร่วม โดยโจทก์ร่วมมิได้ยินยอมยกให้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเอาไปเสียซึ่งเอกสารสิทธิของโจทก์ร่วมในการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วม เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 ตามบทบัญญัติลักษณะ 3 ความผิดเกี่ยวกับการยุติธรรมหมวด 1 ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรมนั้นมิได้บัญญัติโดยมุ่งหมายเฉพาะการกระทำความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรมเท่านั้น แต่ยังบัญญัติโดยมุ่งหมายไปในทางพยานหลักฐานแห่งคดีอีกด้วยการที่จำเลยเอาไปเสียซึ่งเอกสารหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ร่วมในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วม จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเอาไปเสียและซ่อนเร้นซึ่งเอกสารหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) 2 ฉบับเลขที่ 822 และเลขที่ 1237 ของนายหล่า แก้วล้วน ผู้เสียหายในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย ผู้อื่นและประชาชน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา นายหล่า แก้วล้วน ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 จำคุก 1 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 822 และเลขที่ 1237ตำบลโคกสี อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่นเอกสารหมาย จ.1 และ จ.2 เป็นของโจทก์ร่วมเมื่อ พ.ศ. 2524โจทก์ร่วมได้มอบหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าวกับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ร่วมอีก 2 ฉบับให้จำเลยไปจำนองเป็นประกันค่าเสียหายที่จำเลยไปทำงานเป็นพนักงานเก็บเงินค่ากระแสไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสำหรับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1237เอกสารหมาย จ.2 เป็นอันยุติในชั้นอุทธรณ์ ส่วนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 822 เอกสารหมาย จ.1จำเลยได้นำไปจดทะเบียนจำนองเป็นประกันค่าเสียหายที่จำเลยไปทำงานเป็นพนักงานเก็บเงินค่ากระแสไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2524 และจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2537 แล้วได้จดทะเบียนโอนไปเป็นของจำเลยเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2537และจดทะเบียนโอนต่อให้บุตรจำเลยเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2537จำเลยไม่คืนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าวแก่โจทก์ร่วม
มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามฟ้องโจทก์หรือไม่ เห็นว่าโจทก์ร่วมเบิกความยืนยันว่า โจทก์ร่วมมอบหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.) จำนวน 4 ฉบับ ให้จำเลยไปเพื่อจำนองเป็นประกันค่าเสียหายที่จำเลยไปทำงานเป็นพนักงานเก็บเงินค่ากระแสไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โจทก์ร่วมได้ลงชื่อในเอกสาร 4 ฉบับ ให้จำเลยไว้ดำเนินการ ซึ่งฟังได้ว่าเอกสารดังกล่าวเป็นหนังสือมอบอำนาจที่โจทก์ร่วมลงชื่อไว้จำเลยได้นำหนังสือมอบอำนาจที่โจทก์ร่วมลงชื่อไว้ไปจดทะเบียนโอนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.)เลขที่ 1237 เอกสารหมาย จ.2 เป็นของจำเลยตั้งแต่วันที่28 ธันวาคม 2524 ฉบับหนึ่ง และนำไปจดทะเบียนจำนองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 822เป็นประกันค่าเสียหายที่จำเลยทำงานเป็นพนักงานเก็บเงินค่ากระแสไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตามเอกสารหมาย จ.1อีกฉบับหนึ่ง ที่จำเลยเบิกความว่า เมื่อจำเลยได้คืนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าวให้โจทก์ร่วม ต่อมาวันที่ 13 มิถุนายน 2537 โจทก์ร่วมยกที่ดินดังกล่าวให้จำเลยตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย ล.14 นั้น เห็นว่ามีพิรุธน่าสงสัย ศาลฎีกาจึงเชื่อว่าหนังสือมอบอำนาจให้จำเลยโอนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้จำเลยตามเอกสารหมาย ล.14 เป็นหนังสือมอบอำนาจเดิมที่โจทก์ร่วมมอบให้จำเลยนำไปจดทะเบียนจำนองเป็นประกันค่าเสียหายที่จำเลยไปทำงานเป็นพนักงานเก็บเงินค่ากระแสไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนั่นเอง แต่จำเลยนำไปจดทะเบียนโอนที่ดินดังกล่าวเป็นของจำเลยซึ่งไม่ตรงกับเจตนาของโจทก์ร่วม ข้อนำสืบของจำเลยว่าโจทก์ร่วมยกที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าวแก่จำเลยจึงรับฟังไม่ได้ การที่จำเลยเอาไปเสียซึ่งหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ร่วมและโอนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าวเป็นของจำเลยโดยโจทก์ร่วมมิได้ยินยอมยกให้เช่นนี้การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเอาไปเสียซึ่งเอกสารสิทธิของโจทก์ร่วมในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วมอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188ตามฟ้องโจทก์แล้ว
ที่จำเลยฎีกาว่า ความผิดตามมาตรา 188 ต้องเป็นการกระทำต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม แต่การกระทำของจำเลยเป็นการเอาเอกสารของผู้อื่นไป มิได้กระทำต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรมนั้น เห็นว่า ตามบทบัญญัติลักษณะ 3 ความผิดเกี่ยวกับการยุติธรรม หมวด 1 ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรมนั้นมิได้บัญญัติโดยมุ่งหมายเฉพาะการกระทำความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรมเท่านั้นแต่ยังบัญญัติโดยมุ่งหมายไปในทางพยานหลักฐานแห่งคดีอีกด้วย การที่จำเลยเอาไปเสียซึ่งเอกสารหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ร่วมในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วมเช่นนี้ จึงเป็นความผิดตามบทบัญญัติมาตราดังกล่าว
พิพากษายืน

Share