คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2715/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยเรียกร้องเอาเงินจากผู้เสียหายโดยอ้างว่าจะนำไปให้เจ้าพนักงานเพื่อช่วยเหลือให้ จ. เข้ารับราชการโดยไม่ต้องสอบคัดเลือกนั้นแม้ผู้เสียหายจะไม่หลงเชื่อคำกล่าวอ้างของจำเลย และไม่มีเจตนาจะมอบเงินให้แก่จำเลย โดยได้ไปแจ้งความแล้วนำเงินของเจ้าพนักงานตำรวจมาหลอกให้จำเลยรับไว้เป็นหลักฐานในการจับกุมก็ตาม การกระทำของจำเลยก็ครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 แล้ว.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันเรียกร้องเอาเงิน 30,000บาท จากนางสมใจ ปิตะโหตะระ ผู้เสียหาย โดยอ้างว่าจะนำไปมอบให้อธิบดีกรมประชาสงเคราะห์ และหัวหน้างานการสอบและประเมินบุคคล กรมประชาสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือให้นางสาวจุรีรัตน์ปิตะโหตะระ เข้าทำงานในกรมประชาสงเคราะห์ โดยไม่ต้องสอบคัดเลือก อันเป็นวิธีการทุจริตผิดกฎหมายและเป็นความเท็จและผู้เสียหายหลงเชื่อมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้จำเลยทั้งสามไปขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143, 83
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ แต่ต่อมาจำเลยที่ 3 ถอนคำให้การเดิมและขอให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลชั้นต้นจึงให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 1 ที่ 2 เพื่อให้โจทก์ไปฟ้องเป็นคดีใหม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 3 มีความผิดตามฟ้องรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งแล้วคงจำคุก 1 ปี 6 เดือน
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 3 ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่านางสมใจ ปิตะโหตะระ ผู้เสียหาย ผู้ถูกเรียกร้องเอาเงิน 30,000บาท มิได้มีความเชื่อถือว่าจำเลยทั้งสามจะสามารถช่วยเหลือนางสาวจุรีรัตน์ ปิตะโหตะระให้เข้าทำงานในกรมประชาสงเคราะห์โดยไม่ต้องสอบคัดเลือกได้เลย และไม่เคยคิดที่จะมอบเงิน30,000 บาทให้แก่จำเลยทั้งสามแต่อย่างใด โดยได้ไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจ และได้ร่วมวางแผนจับกุมจำเลยทั้งสามโดยนำเงินของเจ้าพนักงานตำรวจมาหลอกให้จำเลยทั้งสามรับไว้แล้วให้ทำหนังสือรับเงินของกลางไว้เป็นหลักฐาน นางสมใจไม่มีเจตนาจะให้เงินจำนวนดังกล่าวแก่จำเลยทั้งสาม จึงถือไม่ได้ว่ามีการเรียก รับ หรือยอมจะรับเงินจากนางสมใจพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงได้ความตามคำฟ้องของโจทก์และคำให้การรับสารภาพของจำเลยว่า จำเลยเรียกเอาเงินจำนวน 30,000 บาทจากนางสมใจผู้เสียหาย โดยอ้างว่าจะสามารถช่วยเหลือให้นางสาวจุรีรัตน์เข้าทำงานรับราชการในกรมประชาสงเคราะห์ได้โดยไม่ต้องสอบคัดเลือกโดยจำเลยจะนำเงินดังกล่าวไปให้เพื่อจูงใจและตอบแทนนายประมูล จันทรจำนงค์ อธิบดีกรมประชาสงเคราะห์ และนายสมทวี ก่อพัฒนาศิลป์หัวหน้างานการสอบและประเมินบุคคล กรมประชาสงเคราะ์การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำที่ครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 143แล้ว นางสมใจผู้เสียหายจะหลงเชื่อคำกล่าวอ้างของจำเลยหรือไม่หรือมีเจตนาจะนำเงิน 30,000 บาทไปมอบให้แก่จำเลยหรือไม่ไม่ทำให้จำเลยพ้นผิดไปได้
พิพากษายืน.

Share