แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายอ้างว่าจำเลยกลั่นแกล้งให้โจทก์ออกจากงานอย่างไม่เป็นธรรม และแถลงตอบคำถามของศาลแรงงานกลางว่า โจทก์ได้รับค่าชดเชยค่าที่ถูกเลิกจ้างโดยไม่ได้รับการบอกกล่าวจากจำเลยครบถ้วนแล้ว ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องนั้นเป็นค่าเสียหายที่โจทก์ถูกเลิกจ้างโดยไม่มีสาเหตุและไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า จึงเรียกค่าเสียหายฐานถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม จำเลยแถลงต่อสู้คดีว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะโจทก์สมคบกับพวกขโมยแบบแปลนการสร้างวงล้อ ดังนี้ หากฟังข้อเท็จจริงได้ดังที่โจทก์ฟ้องและแถลง ก็ถือได้ว่าจำเลยเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน มาตรา 49เพราะการเลิกจ้างโดยไม่มีสาเหตุย่อมไม่เป็นธรรมอยู่ในตัว จึงยังไม่ชอบที่จะงดสืบพยาน แต่ควรฟังข้อเท็จจริงให้สิ้นกระแสความก่อน
ย่อยาว
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า การที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่มีสาเหตุเป็นเรื่องความพอใจของจำเลยที่อยากจะจ้างโจทก์ต่อไปหรือไม่ตามสัญญาจ้างที่ไม่มีกำหนดระยะเวลา เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย ไม่ใช่เป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม จำเลยจึงไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ เมื่อพิจารณาข้ออ้างของโจทก์เพียงฝ่ายเดียว โจทก์ไม่มีทางชนะคดีได้แล้ว จึงให้งดสืบพยาน และพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยอ้างว่าจำเลยมีคำสั่งเลิกจ้างโจทก์โดยไม่แจ้งเหตุผลและไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า และแถลงตอบคำถามของศาลแรงงานกลางว่า ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องตามคำขอท้ายฟ้องเป็นค่าเสียหายที่โจทก์ถูกเลิกจ้างโดยไม่มีสาเหตุและไม่ได้รับการบอกกล่าวล่วงหน้าจึงเรียกค่าเสียหายฐานถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม จำเลยแถลงต่อสู้คดีอันนับเป็นคำให้การว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยมีสาเหตุว่า โจทก์สมคบกับพวกขโมยแบบแปลนการสร้างวงล้อ ศาลแรงงานกลางจึงกำหนดประเด็นพิพาทว่า จำเลยได้เลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรมหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ดังที่โจทก์ฟ้องและแถลงว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่มีสาเหตุ มิใช่เพราะโจทก์สมคบกับพวกขโมยแบบแปลนการสร้างวงล้อดังจำเลยต่อสู้ การกระทำของจำเลยก็เป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 49 เพราะการเลิกจ้างโดยไม่มีสาเหตุย่อมไม่เป็นธรรมต่อลูกจ้างอยู่ในตัว รูปคดียังไม่ชอบที่จะงดสืบพยาน ต้องฟังข้อเท็จจริงให้สิ้นกระแสความเสียก่อน”
พิพากษายกคำพิพากษาของศาลแรงงานกลาง ให้ศาลแรงงานกลางสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี