แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องถึงวันที่ทำการละเมิดและรู้ตัวว่าจำเลยเป็นผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้ว โจทก์จึงต้องฟ้องคดีเสียภายในหนึ่งปีนับแต่นั้น โจทก์นำคดีมาฟ้องเกินหนึ่งปี โจทก์ก็จะต้องบรรยายในฟ้องให้เห็นว่าเหตุใดโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องคดีเมื่อเกินหนึ่งปีได้เมื่อโจทก์มิได้บรรยายเหตุที่โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีดังกล่าวได้และเมื่อจำเลยยกอายุความขึ้นต่อสู้ศาลก็ต้องฟังว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2522 นายวิเชียรลูกจ้างของจำเลยได้ขับรถ 10 ล้อของจำเลยโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังโดยขับเร็วและกินทางเข้าไปเฉี่ยวชนรถยนต์โจทก์เสียหายขอให้บังคับให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์
จำเลยให้การว่าเหตุที่รถเกิดชนกันเป็นเพราะความประมาทปราศจากความระมัดระวังของฝ่ายโจทก์ จำเลยไม่ต้องรับผิดขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้จึงมีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยและวินิจฉัยว่า มูลละเมิดเกิดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2522 แต่โจทก์ฟ้องคดีเรียกร้องค่าเสียหายในวันที่ 4 มิถุนายน 2524 เป็นเวลาเกินกว่าหนึ่งปี โดยมิได้บรรยายฟ้องว่า โจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายรู้ถึงมูลละเมิดเมื่อใดจึงต้องฟังว่าโจทก์รู้มูลละเมิดตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2522 คดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่า โจทก์เพิ่งรู้ตัวผู้ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อวันที่ 22กันยายน 2523 แต่มิได้บรรยายไว้ในคำฟ้องก็เพราะถือเป็นรายละเอียดที่โจทก์ต้องนำสืบในชั้นพิจารณาเพราะเรื่องอายุความหาใช่สภาพแห่งข้อหาไม่ โจทก์ไม่ต้องกล่าวในคำฟ้องว่าคดีของโจทก์ยังไม่ขาดอายุความเพราะเหตุใด
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องถึงวันที่ทำการละเมิดและรู้ตัวว่าจำเลยเป็นผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้ว โจทก์จึงต้องฟ้องคดีเสียภายในหนึ่งปีนับแต่นั้น เมื่อโจทก์นำคดีมาฟ้องเกินหนึ่งปีโจทก์จึงจะต้องบรรยายในฟ้องให้เห็นว่าเหตุใด โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องคดีเมื่อเกินหนึ่งปีได้เมื่อโจทก์มิได้บรรยายเหตุที่โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีดังกล่าวได้ และเมื่อจำเลยยกอายุความขึ้นต่อสู้ ศาลก็ต้องฟังว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน