แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ดินสวนมะพร้าว แม้จะไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินก็ดีย่อมถือได้ว่าเป็นที่ดินซึ่งได้ปลูกพรรณไม้อันมีค่าเป็นที่ดินมีราคาแล้วจึงเป็นธรรมดาที่ผู้ครอบครองย่อมหวงแหน ถืออำนาจเป็นเจ้าของและครอบครองกรรมสิทธิ์ไม่สละละทิ้งไปง่ายๆ ต่อเมื่อผู้อื่นเข้าครอบครองโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปีจึงจะได้กรรมสิทธิ์ตามมาตรา 1382
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า มารดาโจทก์กู้เงินจำเลยไป 200 บาท ได้มอบสวนมะพร้าวให้จำเลยเก็บผลต่างดอกเบี้ยต่อมามารดาโจทก์วายชนม์โจทก์ขอชำระเงินกู้ จำเลยไม่ยอม จึงขอให้ศาลบังคับจำเลยรับเงิน 200 บาทและคืนสวนมะพร้าวให้โจทก์
จำเลยต่อสู้ว่าสัญญากู้มีข้อความว่า ถ้าไม่ใช้ต้นเงินให้ภายใน 3 ปี มารดาโจทก์ยอมยกที่ดินให้จำเลยแทนต้นเงิน บัดนี้เกินกำหนดมาถึง 5 ปีแล้ว ที่ย่อมเป็นของจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรับเงิน 200 บาทและคืนสวนให้โจทก์
จำเลยฎีกาในข้อกฎหมายว่า ที่สวนมะพร้าวนี้ไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน ต้องถือว่าเป็นมือเปล่า สละการครอบครองเมื่อใดก็ขาดสิทธิครอบครอง
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่รายพิพาทเป็นสวนมะพร้าว นับว่าเป็นที่ดินซึ่งได้ปลูกพรรณไม้อันมีค่า เป็นที่ดินมีราคาแล้วเช่นนี้เป็นธรรมดาที่ผู้ครอบครองย่อมหวงแหนถืออำนาจเป็นเจ้าของและครอบครองกรรมสิทธิ์ซึ่งจะไม่สละละทิ้งไปได้ง่าย ๆ ต่อเมื่อผู้อื่นเข้าครอบครอง โดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของครบ 10 ปีจึงจะได้กรรมสิทธิ์ตามมาตรา 1322 ในคดีนี้จำเลยเข้าครอบครองยังไม่ถึง 10 ปี จึงยังไม่ได้กรรมสิทธิ์จึงพิพากษายืน