คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 163/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ก่อตั้งทรัสต์ได้มอบทรัพย์สินของตนให้แก่ทรัสตีเป็นผู้ดูแลจัดการผลประโยชน์เพื่อรับประโยชน์แห่งทรัสต์นั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องสัญญาต่างตอบแทนที่คู่สัญญาจะต้องปฏิบัติการชำระหนี้แต่อย่างใด ฉะนั้นเมื่อทรัสตีคนใดทำผิดหน้าที่และละเมิดทรัสต์ ศาลก็ย่อมจะพิพากษาถอดถอนทรัสตีผู้นั้นเสียได้ โดยไม่ต้องเลิกล้มทำลายหนังสือสัญญาก่อตั้งทรัสต์
การถอดถอนทรัสตีนั้นไม่มีหลักกฎหมายว่าทรัสตีจะต้องกระทำการถึงเป็นการทุจริตจึงจะถอดถอนได้ เพียงแต่ละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตนถึงขนาดไม่สมควรจะดำรงตำแหน่งเป็นทรัสตีต่อไปแล้ว ศาลก็ย่อมถอดถอนได้
ฟ้องขอให้ถอดถอนทรัสตีตามตราสารก่อตั้งทรัสต์ที่ได้กระทำไว้ในประเทศไทย นั้นแม้ทรัพย์สินอันเป็นกองทรัสต์ส่วนมากจะอยู่ในต่างประเทศก็ฟ้องในประเทศไทยได้เพราะมิใช่เรื่องที่จะต้องบังคับแก่ทรัพย์สินแต่อย่างใด

ย่อยาว

นายเทียวดอร์ อามันดัสเกิ๊ตเจ ผู้ตายได้ทำหนังสือสัญญาก่อตั้งทรัสต์ มอบทรัพย์ให้ให้โจทก์ที่ 1 และจำเลยเป็นทรัสตีจัดการดูแลจัดผลประโยชน์ เพื่อผู้รับประโยชน์แห่งทรัสต์ จำเลยละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตน ทำให้ผู้รับประโยชน์แห่งทรัสต์เดือดร้อน โจทก์จึงฟ้องขอให้ถอดถอนจำเลยออกจากผู้จัดการทรัพย์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้จำเลยออกจากหน้าที่ทรัสต์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามที่จำเลยอ้างว่าเอกสารก่อตั้งทรัสต์จำเลยเป็นคู่สัญญาด้วย ศาลจะพิพากษาให้จำเลยออกจากหน้าที่ไม่ได้นอกจากจะเลิกล้มทำลายหนังสือก่อตั้งทรัสต์นั้นเสีย นั้นเห็นว่าตามตราสารก่อตั้งทรัสต์ ผู้ก่อตั้งทรัสต์ได้มอบทรัพย์สินของตนให้แก่ทรัสตีเป็นผู้ดูแลจัดผลประโยชน์ เพื่อรับประโยชน์จากทรัสต์เมื่อทรัสต์คนใด ทำผิดหน้าที่และละเมิดทรัสต์ ศาลก็ย่อมพิพากษาถอดถอนทรัสตีผู้นั้นได้ กรณีไม่เป็นเรื่องสัญญาต่างตอบแทน

(2) จำเลยจะมาอ้างว่าเอกสารท้ายฟ้องอันเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องโจทก์ เป็นเอกสารที่แปลผิดในชั้นฎีกา โดยจำเลยไม่ได้คัดค้านเป็นประเด็นมาแต่ศาลล่างนั้นไม่ได้

(3) ในข้อที่จำเลยคัดค้านว่า จำเลยไม่ได้กระทำทุจริตจะถอดถอนไม่ได้นั้น ศาลล่างฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาแล้วว่า จำเลยได้ละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตน ถึงขนาดไม่สมควรจะดำรงตำแหน่งเป็นทรัสตีต่อไปแล้ว และไม่มีหลักกฎหมายได้ว่าทรัสตีต้องกระทำการถึงเป็นทุจริตจึงจะถอดถอนได้ ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

(4) จำเลยฎีกาว่า ทรัพย์สินอันเป็นกองทรัสต์ส่วนมากอยู่ในต่างประเทศ จึงไม่อยู่ในอำนาจของศาลในกรุงเทพนั้น ศาลฎีกาเห็นว่ากรณีเรื่องนี้มิใช่เรื่องที่จะต้องบังคับแก่ทรัพย์สินแต่อย่างใดหากเป็นเรื่องถอดถอนทรัสตีตามตราสารก่อตั้งทรัสตีที่ได้ทำในประเทศย่อมอยู่ในเขตอำนาจศาลไทย จึงพิพากษายืน

Share