คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยที่2เป็นภริยาของจำเลยที่3พักอาศัยอยู่บ้านเดียวกันกับจำเลยที่1และที่3ในลักษณะถาวรมิใช่ไปๆมาๆจำเลยที่2ได้อยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยากับจำเลยที่3ก่อนเกิดเหตุประมาณ2เดือนโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยที่3ประกอบอาชีพอื่นอันจะมีรายได้มาเลี้ยงดูจำเลยที่2ได้จำเลยที่2ย่อมรู้ถึงพฤติกรรมของจำเลยที่3เป็นอย่างดีหากไม่มีเจตนาร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่1และที่3แล้วก็ไม่น่าอยู่ร่วมบ้านเดียวกันกับจำเลยที่1และที่3เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยที่2ได้ขณะถือถุงกระดาษบรรจุเฮโรอีน100หลอดนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จำเลยที่1ขับเพื่อนำไปส่งให้สายลับที่ล่อซื้อกับค้นพบเฮโรอีนอีก135หลอดถุงพลาสติกเปล่าตราสิงโตคู่เกาะลูกโลกซึ่งมีคราบเฮโรอีนติดอยู่2ใบและหลอดพลาสติกเปล่า462หลอดซึ่งเป็นอุปกรณ์ใช้สำหรับบรรจุเฮโรอีนซุกซ่อนอยู่ใต้เตียงนอนของจำเลยที่1ภายในบ้านหลังนี้ด้วยในชั้นตรวจค้นจับกุมจำเลยที่2มิได้โต้เถียงว่าตนมิได้รู้เห็นเกี่ยวข้องกับเฮโรอีนของกลางแต่อย่างใดดังนี้ฟังได้ว่าจำเลยที่2ร่วมกับจำเลยที่1และที่3ผลิตเฮโรอีนของกลางเพื่อจำหน่ายและมีเฮโรอีนของกลางซึ่งมีจำนวนเกิน100กรัมไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เฮโรอีนที่จำเลยที่2ร่วมกันผลิตเพื่อจำหน่ายและมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเป็นเฮโรอีนจำนวนเดียวกันการกระทำของจำเลยที่2จึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา90หาใช่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตามมาตรา91ไม่ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้คู่ความจะมิได้ฎีกาศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้อีกทั้งเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดีศาลฎีกาย่อมเห็นสมควรพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่1และที่3ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า เมื่อ วันที่ 27 ตุลาคม 2535 เวลา กลางวัน จำเลยทั้ง สี่ ได้ กระทำผิด หลายกรรม ต่างกัน คือ จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ร่วมกันผลิต เพื่อ จำหน่าย ซึ่ง เฮโรอีน อันเป็น ยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1โดย แบ่ง เฮโรอีน จาก ถุงพลาสติก ขนาด ใหญ่ บรรจุ ลง ใน หลอด พลาสติก และร่วมกัน มี เฮโรอีน 235 หลอด พลาสติก น้ำหนัก 257.149 กรัม ไว้ ในครอบครอง เพื่อ จำหน่าย โดย มิได้ รับ อนุญาต อันเป็น การ ฝ่าฝืน ต่อ กฎหมายส่วน จำเลย ที่ 4 ได้ ช่วยเหลือ และ ให้ ความสะดวก ใน การ ที่ จำเลย ที่ 1ถึง ที่ 3 กระทำ ความผิด ฐาน มี เฮโรอีน ไว้ ใน ครอบครอง เพื่อ จำหน่ายก่อน และ ขณะ กระทำ ความผิด โดย จำเลย ที่ 4 ได้ มอบ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ซูซูกิ หมายเลข ทะเบียน ระนอง ค-2362 แก่ จำเลย ที่ 1 และ ที่ 2ใช้ เป็น ยานพาหนะ ใน การ นำ เฮโรอีน ที่ จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 มีไว้ ในครอบครอง เพื่อ จำหน่าย ไป ส่ง ให้ แก่ ลูกค้า เหตุ เกิด ที่ ตำบล บางริ้น อำเภอ เมือง ระนอง จังหวัด ระนอง เจ้าพนักงาน จับ จำเลย ทั้ง สี่ ได้พร้อม เฮโรอีน 235 หลอด พลาสติก ถุงพลาสติก ขนาด ใหญ่ มี คราบ เฮโรอีนติด อยู่ จำนวน น้อย ไม่อาจ ชั่ง หา น้ำหนัก เฮโรอีน 2 ใบ หลอด พลาสติก เปล่า462 หลอด รถจักรยานยนต์ หมายเลข ทะเบียน ระนอง ค-2362 จึง ยึด เป็นของกลาง ขอให้ ลงโทษ ตาม พระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 7, 15, 65, 66, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 91ริบของกลาง ทั้งหมด
จำเลย ทั้ง สี่ ให้การ ปฏิเสธ แต่ก่อน สืบพยานโจทก์ จำเลย ที่ 1ถึง ที่ 3 ขอ ถอน คำให้การ เดิม และ ให้การ ใหม่ เป็น รับสารภาพ ตาม ฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษา ว่า จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3มี ความผิด ตาม พระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 65วรรคสอง , 66 วรรคสอง อันเป็น ความผิด ต่อ กฎหมาย หลายกรรม ต่างกันให้ เรียง กระทง ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 วางโทษ ฐาน ผลิตเฮโรอีน เพื่อ จำหน่าย ให้ ประหารชีวิต จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ฐาน มีเฮโรอีน ไว้ ใน ครอบครอง เพื่อ จำหน่าย เกิน หนึ่ง ร้อย กรัม จำคุก จำเลยที่ 1 ถึง ที่ 3 ตลอด ชีวิต เมื่อ รวม โทษ ทุกกระทง แล้ว ลงโทษ ประหารชีวิตจำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 สถาน เดียว ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3)จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ให้การรับสารภาพ อันเป็น ประโยชน์ แก่ การ พิจารณามีเหตุ บรรเทา โทษ ลดโทษ ให้ กึ่งหนึ่ง ตาม มาตรา 78 ประกอบ มาตรา 52คง ลงโทษ จำคุก ตลอด ชีวิต ริบของกลาง ทั้งหมด และ ให้ยก ฟ้อง สำหรับจำเลย ที่ 4
จำเลย ที่ 2 อุทธรณ์ ส่วน โจทก์ จำเลย ที่ 1 และ ที่ 3 ไม่ อุทธรณ์ศาลชั้นต้น ส่ง สำนวน สำหรับ จำเลย ที่ 1 และ ที่ 3 ไป ยัง ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 วรรคสอง
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษาแก้ เป็น ว่า ให้ยก ฟ้อง สำหรับ จำเลยที่ 2 นอกจาก ที่ แก้ คง ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “มี ปัญหา วินิจฉัย ตาม ฎีกา ของ โจทก์ ว่าจำเลย ที่ 2 ได้ ร่วม กับ จำเลย ที่ 1 และ ที่ 3 ผลิต เฮโรอีน ของกลางเพื่อ จำหน่าย และ มี เฮโรอีน ของกลาง ซึ่ง มี จำนวน เกิน 100 กรัม ไว้ใน ครอบครอง เพื่อ จำหน่าย หรือไม่ โจทก์ มี ร้อยตำรวจเอก สุรพล ลิมปิโรจน์ฤทธิ์ นาย ดาบตำรวจ ประจบ สระโร และ จ่าสิบตำรวจ ไทย ผมหอม เจ้าพนักงาน ตำรวจ ที่ ร่วม กับพวก วางแผน จับกุม ตรวจค้น และ จับกุม จำเลย ที่ 2 กับพวก เป็น พยาน เบิกความ ว่า หลังจาก พยานทั้ง สาม กับพวก ร่วมกัน วางแผน จับกุม และ ให้ สาย ลับ เข้า ไป ล่อ ซื้อเฮโรอีน ที่ บ้าน เลขที่ 29/13-14 โดย ให้ นำ เฮโรอีน ไป ส่งมอบ และ รับเงิน ค่า เฮโรอีน ที่ บ้าน ปากคลอง จ่าสิบตำรวจ ไทย กับพวก จับกุม จำเลย ที่ 2 ได้ ขณะ ถือ ถุง กระดาษ บรรจุ เฮโรอีน 100 หลอด นั่ง ซ้อน ท้ายรถจักรยานยนต์ ที่ จำเลย ที่ 1 เป็น คนขับ ได้ ที่ ปากซอย 15 ห่าง จากบ้าน เลขที่ 29/13-14 ประมาณ 150 เมตร จาก นั้น ได้ ควบคุม จำเลย ที่ 1และ ที่ 2 มาตร วจค้น ที่ บ้าน เลขที่ 29/13-14 โดย จำเลย ที่ 1 และ ที่ 2เป็น ผู้นำ ตรวจค้น บ้าน เลขที่ 29/13 จาก การ ตรวจค้น พบ เฮโรอีน จำนวน135 หลอด กับ ถุงพลาสติก เปล่า ตรา สิงโต คู่ เกาะ ลูกโลก 2 ใบ มี คราบเฮโรอีน ติด อยู่ บรรจุ อยู่ ใน กล่อง กระ ติกน้ำ ใน ห้องนอน ของ จำเลย ที่ 2และ ที่ 3 และ พบ หลอด พลาสติก เปล่า จำนวน 462 หลอด ซุกซ่อน อยู่ ใต้เตียง นอน ของ จำเลย ที่ 1 ซึ่ง ตั้ง อยู่ นอก ห้องนอน ของ จำเลย ที่ 2และ ที่ 3 ตาม บันทึก การ ตรวจค้น จับกุม และ แผนที่ สังเขป แสดง สถานที่เกิดเหตุ เอกสาร หมาย จ. 1 และ จ. 5 เห็นว่า จำเลย ที่ 2 เป็น ภริยาของ จำเลย ที่ 3 พัก อาศัย อยู่ ด้วยกัน กับ จำเลย ที่ 1 และ ที่ 3 ที่บ้าน เลขที่ 29/13 พฤติการณ์ ที่ จำเลย ที่ 2 เข้า มา พัก อาศัย อยู่ร่วม บ้าน เดียว กัน กับ จำเลย ที่ 1 และ ที่ 3 มี ลักษณะ เป็น การ อยู่อย่าง ถาวร มิใช่ ไป ๆ มา ๆ นอกจาก นี้ ยัง ได้ความ ว่า จำเลย ที่ 2ได้ อยู่กิน ด้วยกัน ฉัน สามี ภริยา กับ จำเลย ที่ 3 ก่อน เกิดเหตุ ประมาณ2 เดือน โดย ไม่ปรากฏ ว่า จำเลย ที่ 3 ประกอบ อาชีพ อื่น อัน จะ มี รายได้นำ มา เลี้ยงดู จำเลย ที่ 2 ได้ จำเลย ที่ 2 ย่อม จะ รู้ ถึง พฤติกรรมของ จำเลย ที่ 3 เป็น อย่างดี หาก ไม่มี เจตนา ร่วม กระทำผิด กับ จำเลยที่ 1 และ ที่ 3 แล้ว ก็ ไม่ น่า จะ อยู่ ร่วม บ้าน เดียว กัน กับ จำเลย ที่ 1และ ที่ 3 เจ้าพนักงาน ตำรวจ จับกุม จำเลย ที่ 2 ได้ ขณะ ถือ ถุง กระดาษบรรจุ เฮโรอีน จำนวน 100 หลอด นั่ง ซ้อน ท้ายรถ จักรยานยนต์ ที่ จำเลยที่ 1 เป็น คนขับ ไป ส่ง ตาม ที่ สาย ลับ ล่อ ซื้อ กับ ค้นพบ เฮโรอีน จำนวน135 หลอด ซึ่ง เป็น จำนวน มาก และ ถุงพลาสติก เปล่า ตรา สิงโต คู่ เกาะ ลูกโลก2 ใบ มี คราบ เฮโรอีน ติด อยู่ นอกจาก นี้ ยัง พบ หลอด พลาสติก เปล่า จำนวน462 หลอด ซึ่ง เป็น อุปกรณ์ ใช้ สำหรับ บรรจุ เฮโรอีน ซุกซ่อน อยู่ ใต้เตียง นอน ของ จำเลย ที่ 1 ภายใน บ้าน หลัง เดียว กัน นี้ ด้วย ใน ชั้น ตรวจค้นและ จับกุม จำเลย ที่ 2 มิได้ โต้เถียง ว่า ตน มิได้ รู้เห็น เกี่ยวข้องกับ เฮโรอีน ของกลาง แต่อย่างใด จึง เชื่อ ว่า จำเลย ที่ 2 ร่วม กับจำเลย ที่ 1 และ ที่ 3 ผลิต เฮโรอีน ของกลาง เพื่อ จำหน่าย และ มี เฮโรอีนของกลาง ซึ่ง มี จำนวน เกิน 100 กรัม ไว้ ใน ครอบครอง เพื่อ จำหน่ายตาม ฟ้อง ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษายก ฟ้องโจทก์ สำหรับ จำเลย ที่ 2มา นั้น ไม่ต้อง ด้วย ความเห็น ของ ศาลฎีกา ฎีกา ของ โจทก์ ฟังขึ้น แต่เนื่องจาก เฮโรอีน ที่ จำเลย ที่ 2 ร่วมกัน ผลิต เพื่อ จำหน่าย และ มีไว้ ใน ครอบครอง เพื่อ จำหน่าย เป็น เฮโรอีน จำนวน เดียว กัน การกระทำของ จำเลย ที่ 2 จึง เป็น กรรมเดียว ผิด ต่อ กฎหมาย หลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 หาใช่ เป็น ความผิด หลายกรรม ต่างกันตาม มาตรา 91 ไม่ และ ปัญหา ว่าการ กระทำ ของ จำเลย เป็น การกระทำกรรมเดียว หรือ หลายกรรม ต่างกัน นี้ เป็น ปัญหา เกี่ยวกับ ความสงบ เรียบร้อยแม้ คู่ความ จะ มิได้ ฎีกา ศาลฎีกา ก็ มีอำนาจ ยกขึ้น วินิจฉัย เอง ได้อีก ทั้ง เป็นเหตุ อยู่ ใน ส่วน ลักษณะคดี ซึ่ง ศาลฎีกา เห็นสมควร พิพากษาตลอด ไป ถึง จำเลย ที่ 1 และ ที่ 3 ด้วย สำหรับ จำเลย ที่ 2 ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ขณะ กระทำผิด จำเลย ที่ 2 อายุ 16 ปี 11 เดือน ตาม บัตรประจำตัว ประชาชน ที่ จำเลย ที่ 2 แนบ มา พร้อม คำ แก้ ฎีกา ใน วัน กระทำผิดจำเลย ที่ 2 จึง อายุ ไม่เกิน 17 ปี ต้อง ลด มาตรา ส่วน โทษ ให้ แก่ จำเลยที่ 2 กึ่งหนึ่ง ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75”
พิพากษาแก้ เป็น ว่า จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 มี ความผิด ตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 65 วรรคสอง , 66วรรคสอง เป็น กรรมเดียว เป็น ความผิด ต่อ กฎหมาย หลายบท ให้ ลงโทษ ฐานร่วมกัน ผลิต เฮโรอีน เพื่อ จำหน่าย ตาม มาตรา 65 วรรคสอง ซึ่ง เป็น กฎหมายบทที่ มี โทษหนัก ที่สุด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 โดย ให้ประหารชีวิต จำเลย ที่ 1 และ ที่ 3 ชั้นพิจารณา จำเลย ที่ 1 และ ที่ 3ให้การรับสารภาพ เป็น ประโยชน์ แก่ การ พิจารณา มีเหตุ บรรเทา โทษ ลดโทษให้ กึ่งหนึ่ง ตาม มาตรา 78 ประกอบ มาตรา 52(2) คง ลงโทษ จำคุก ตลอด ชีวิตส่วน จำเลย ที่ 2 ขณะ กระทำผิด อายุ ไม่เกิน 17 ปี ลด มาตรา ส่วน โทษให้ กึ่งหนึ่ง ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 แล้ว ลงโทษ จำคุกตลอด ชีวิต ชั้นพิจารณา จำเลย ที่ 2 ให้การรับสารภาพ เป็น ประโยชน์แก่ การ พิจารณา มีเหตุ บรรเทา โทษ ลดโทษ ให้ กึ่งหนึ่ง ตาม ประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบ มาตรา 53 คง จำคุก 25 ปี นอกจาก ที่ แก้ คง ให้เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ ภาค 3

Share