แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ย่อยาว
มูลกรณีศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาพิพากษาให้จำเลยใช้ณี่เงิน ๑๖๐ บาทกับค่าฤชาธรรมเนียมแก่โจทย์ คดีเปนอันเด็ดขาดถึงที่สุด จำเลยไม่นำเงินมาใช้ให้แก่โจทย์ตามคำพิพากษา โจทย์นำเจ้าพนักงานยึดที่นา ๑ แปลงอยู่ทุ่งน่าไม่ อำเภอราชคราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปนเนื้อที่นาประมาณ ๒๕ ไร่ ๖๐ วาว่าเปนทรัพย์ของจำเลย ฯ
ฝ่ายนางขาบยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่าที่นารายนี้นางอินได้ทำหนังสือสัญญากู้เงินของนางขายไป ๘๐๐ บาท นางอินได้มอบโฉนดแลที่นารายนี้ให้แก่นางขาบทำกินมา ๑๐ ปีแล้วขอให้ศาลสั่งถอนการยึดที่นารายนี้เสีย ฯ
ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไต่สวนได้ความดังคำร้องนางขาบจึงสั่งถอนการยึดที่นารายนี้เสีย กับให้โจทย์เสียค่าฤชาธรรมเนียมแทนผู้ร้องขัดทรัพย์ด้วย ฯ
โจทย์ติดใจอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษพิพากษาทับสัตย์ศาลเดิม ฯ
โจทย์ทูลเกล้า ฯถวายฎีกายกข้อกฎหมายมีประการต่าง ๆ ผู้ร้องขัดทรัพย์มิได้แก้ฎีกา ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนนี้แล้ว ศาลล่างทั้ง ๒ ฟังข้อเท็จจริงในคดีโดยมีพยานหลักฐานเปนยุติมาแล้ว ว่าในโฉนดสำหรับที่พิภาษนี้มีชื่อนางอินบุตรีนายหรุ่มจำเลยผู้แพ้คดีโจทย์เปนเจ้าของ แล้วนางอินทำสัญญากู้เงินของนางขาบผู้ร้องขัดทรัพย์ไป ๘๐๐ บาท แล้วนางอินได้มอบโฉนดแลที่นารายนี้ให้แก่นางขาบทำกินมา ๑๐ ปีดังนี้ ต้องถือว่าที่นารายนี้ไม่ใช่เปนของนายหรุ่มจำเลยแลนางอินผู้มีชื่อในโฉนดได้ขาดปกครองที่นี้แล้ว จำเลยไม่มีอำนาจยึดที่นารายนี้ได้ ฯ
จึงพร้อมกันพิพากษายืนตามคำตัดสินศาลล่างทุกประการฎีกาโจทย์ฟังไม่ขึ้นให้ยกเสีย ฯ
วันที่ ๒๖ กรกฎาคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๓