คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานเป็นตัวการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 จำคุก 1 ปี และศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดฐานช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่ผู้อื่นกระทำความผิดฉ้อโกงตามมาตรา 341,86 จำคุก 8 เดือน นั้น แม้จะเป็นการแก้ทั้งบทและโทษ แต่ศาลอุทธรณ์ก็คงพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปี จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219

ย่อยาว

เฉพาะความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี กับให้จำเลยชดใช้เงินแก่ผู้เสียหาย ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341, 86 จำคุกจำเลย 8 เดือน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานเป็นตัวการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ให้จำคุก 1 ปี ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่ผู้อื่นกระทำความผิดฉ้อโกงผู้เสียหาย พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 86จำคุก 8 เดือน ดังนี้แม้จะเป็นการแก้ทั้งบทและโทษก็ตามแต่ศาลอุทธรณ์ก็คงพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปีคดีจึงต้องห้ามคู่ความมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ที่โจทก์ฎีกาว่าพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบข้อเท็จจริงรับฟังได้อย่างมั่นคงแน่ชัดว่า จำเลยกระทำไปในฐานะเฉพาะตัวของจำเลยเองในการติดต่อรับสมัครงานอันเป็นการฉ้อโกงผู้เสียหาย จึงควรมีความผิดฐานเป็นตัวการฉ้อโกงผู้เสียหายแต่หากจะฟังว่า บริษัทเทพไทยธรณีจำกัดโดยนายประสิทธิ์ โชคชัยณรงค์ผู้จัดการ ได้เป็นผู้หลอกลวงฉ้อโกงผู้เสียหาย ก็เป็นการแบ่งหน้าที่กันกระทำความผิด โดยนายประสิทธิ์เป็นผู้ดำเนินการแทนบริษัทเทพไทยธรณี จำกัดและจำเลยรับหน้าที่ติดต่อผู้สมัครงาน พูดหลอกลวงผู้สมัครงานให้หลงเชื่อการกระทำของจำเลยจึงเป็นตัวการร่วมกันในการฉ้อโกงผู้เสียหายนั้น เป็นฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยทำงานเป็นลูกจ้างในบริษัทเทพไทยธรณีจำกัด ไม่ได้ร่วมหลอกลวงผู้เสียหายเพียงแต่เป็นผู้รับเงินออกใบเสร็จรับเงิน แล้วนำเงินส่งแก่นายประสิทธิ์ผู้จัดการ เป็นการช่วยเหลือให้ความสะดวกในการที่นายประสิทธิ์กระทำผิดฉ้อโกงผู้เสียหายฎีกาของโจทก์จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามบทบัญญัติดังกล่าวศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกฎีกาโจทก์

Share