แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การต่อสู้คดีอ้างกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินพิพาทของฝ่ายจำเลยนั้น จำเลยอาจจะให้การต่อสู้กรรมสิทธิ์โดยมิได้ฟ้องแย้ง หรือจะฟ้องแย้งด้วยก็ได้ถ้าฟ้องแย้งด้วยและเมื่อฟังว่ากรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาทเป็นของจำเลย ศาลก็จะบังคับให้ตามฟ้องแย้ง แต่ถ้าหากมิได้ฟ้องแย้งศาลก็จะพิพากษาเพียงให้ยกฟ้องโจทก์เท่านั้น คดีเช่นนี้เป็นคดีมีทุนทรัพย์ การที่จำเลยมิได้นำค่าขึ้นศาลฟ้องแย้งมาชำระหาได้ทำให้ประเด็นในข้อหาต่อสู้กรรม สิทธิ์หมดหรือระงับไปไม่
การที่ศาลมีคำสั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับนั้น เป็นการใช้ดุลพินิจของศาลตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 161 หาใช่เป็นการกำหนดหรือคำนวณค่าฤชาธรรมเนียมไม่ถูกต้องตามกฎหมายไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยขนย้ายครอบครัวและบริวารออกไปจากบ้านเลขที่ ๑๕/๒ หมู่บ้านพฤกษชาติ และส่งมอบบ้านดังกล่าวในสภาพที่สมบูรณ์แก่โจทก์กับชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมจำเลยตกลงซื้อบ้านและที่ดินจากโจทก์เป็นเงิน ๔๔๐,๐๐๐ บาท โดยจำเลยจะเป็นผู้กู้เงินจากธนาคารมาชำระราคาบ้านและที่ดิน ทั้งนี้โดยมอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้รับเงินจากธนาคาร โจทก์รับเงินจากธนาคารแล้ว ไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่จำเลย จึงขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์บ้านและที่ดินให้แก่จำเลย มิฉะนั้นให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์และจำเลยชำระค่าขึ้นศาลภายใน ๑๕ วัน โดยตีราคาบ้านและที่ดินเป็นเงิน ๗๐๐,๐๐๐ บาท แต่ฝ่ายจำเลยมิได้ชำระค่าขึ้นศาลภายในกำหนด ศาลจึงมีคำสั่งว่าจำเลยทิ้งฟ้องแย้ง ให้จำหน่ายแย้งของจำเลยจากสารบบความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคำฟ้องมายื่นใหม่ภายในอายุความ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาว่าเดิมโจทก์ฟ้องอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ เมื่อจำเลยให้การและฟ้องแย้งต่อสู้กรรมสิทธิ์ศาลจึงมีคำสั่งให้โจทก์จำเลยเสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีมีทุนทรัพย์ แต่เมื่อทางฝ่ายจำเลยมิได้นำค่าขึ้นศาลอย่างคดีมีทุนทรัพย์มาวางศาลประเด็นเรื่องการต่อสู้กรรมสิทธิ์จึงไม่มี คงเหลือประเด็นตามข้อต่อสู้ของจำเลยเพียงว่าโจทก์ฟ้องเคลือบคลุมและจำเลยมิได้ว่าจ้างโจทก์ก่อสร้างบ้านเท่านั้น
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า การต่อสู้คดีอ้างกรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาทของฝ่ายจำเลยนั้น จำเลยอาจจะให้การต่อสู้กรรมสิทธิ์โดยมิได้ฟ้องแย้ง หรือจะฟ้องแย้งด้วยก็ได้ ถ้าฟ้องแย้งด้วยและเมื่อฟังว่ากรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาทเป็นของจำเลย ศาลก็จะบังคับให้ตามฟ้องแย้ง แต่ถ้าหากมิได้ฟ้องแย้งศาลก็จะพิพากษาเพียงให้ยกฟ้องโจทก์เท่านั้น ดังนั้น การที่จำเลยมิได้นำค่าขึ้นศาลมาชำระหาได้ทำให้ประเด็นในข้อต่อสู้กรรมสิทธิ์หมดหรือระงับไปอย่างโจทก์ฎีกาไม่ ดังจะเห็นได้จากคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นในคำพิพากษาว่า ศาลเชื่อว่าจำเลยซื้อบ้านและที่ดินจากโจทก์ เพราะฉะนั้นคดีนี้จึงคงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ การที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับนั้น เป็นการใช้ดุลพินิจของศาลตามที่บัญญัติไว้ในประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๖๑ หาใช่เป็นการกำหนดหรือคำนวณค่าฤชาธรรมเนียมไม่ถูกต้องตามกฎหมายไม่ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน