คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2546/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ได้รับชดใช้ค่าปรับในการที่จำเลยไม่ชำระค่าจ้างงวดสองตามสัญญาเป็นเงินวันละ 100 บาทแล้ว โจทก์ก็ไม่ควรได้ดอกเบี้ยในการที่จำเลยไม่ชำระค่าจ้างนั้นอีก เพราะถือเป็นค่าเสียหายที่รวมอยู่ในค่าปรับนั้นอยู่แล้วโดยสภาพ โดยเฉพาะโจทก์มิได้พิสูจน์ค่าเสียหายของตนว่ามีจำนวนมากยิ่งกว่าค่าปรับประการใด

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ใช้ค่าปรับ 4,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระค่าจ้างงวดสองส่วนที่ยังค้างชำระอีก 15,800 บาท กับค่าเจาะช่องประตูใส่เหล็กยึด 3,000 บาท กับค่าปรับอีก 3,200 บาท รวมเป็นเงิน 22,000 บาท ให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ยให้ยกฟ้องแย้ง จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงน่าเชื่อว่าจำเลยได้ขัดขวางไม่ให้โจทก์เข้าทำการก่อสร้างจริง ฉะนั้นจะถือว่าโจทก์ผิดสัญญาหาได้ไม่ ตรงกันข้ามคดีกลับฟังได้ว่าโจทก์ได้ทำการก่อสร้างงานในงวดสองเสร็จเรียบร้อยตามสัญญาแล้ว จำเลยไม่ยอมจ่ายค่าจ้างงวดสองให้โจทก์ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาจึงเป็นการชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยคงมีส่วนที่ฟังขึ้นเฉพาะเรื่องประตูเหล็กยึดเท่านั้น จำเลยไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าประตูเหล็กยึด 3,000 บาทให้โจทก์ แต่จำเลยต้องรับผิดใช้ค่าจ้างงวดสอง 25,000 บาทซึ่งจำเลยได้ชำระให้โจทก์บางส่วนแล้วเป็นเงิน 4,200 บาท จึงยังค้างชำระอยู่อีก 15,800 บาท กับจำเลยต้องใช้ค่าปรับ 3,200 บาท ในการผิดสัญญาไม่ยอมชำระค่าจ้างงวดสองให้โจทก์ตามข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ อย่างไรก็ตาม ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อโจทก์ได้รับชดใช้ค่าปรับในการที่จำเลยไม่ชำระค่าจ้างงวดสองตามสัญญาเป็นเงินวันละ 100 บาทแล้ว โจทก์ก็ไม่ควรได้ดอกเบี้ยในการที่จำเลยไม่ชำระค่าจ้างนั้นอีก เพราะถือเป็นค่าเสียหายที่รวมอยู่ในค่าปรับนั้นอยู่แล้ว โดยสภาพ โดยเฉพาะโจทก์ก็มิได้พิสูจน์ค่าเสียหายของตนว่ามีจำนวนมาก ยิ่งกว่าค่าปรับประการใด

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงินค่าจ้างงวดสองซึ่งยังค้างชำระอยู่เป็นเงิน 15,800 บาท กับค่าปรับอีก 3,200 บาท รวมเป็นเงิน 19,000 บาทให้โจทก์ ให้ยกคำขอของโจทก์ในเรื่องค่าประตูเหล็กยึด3,000 บาท และเรื่องค่าดอกเบี้ยในเงินค่าจ้างงวดสองเสีย นอกจากที่แก้นี้แล้วให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ”

Share