คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 692/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ทั้งสองในฐานะพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว พ. กับ จ. ผู้ต้องหาไว้ จำเลยได้ทำสัญญาประกันตัว พ. กับ จ. จำเลยผิดสัญญาประกันคนละฉบับฉบับละ 50,000 บาททุนทรัพย์สำหรับคดีนี้จึงแยกออกตามสัญญาประกันแต่ละฉบับเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ลดค่าปรับลงจากสัญญาละ 35,000 บาทเป็นสัญญาละ 10,000 บาท เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฎีกาของโจทก์จึงเป็นฎีกาดุลพินิจในการลดค่าปรับ ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 6 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2517 จำเลยได้ทำสัญญาประกันตัวนายพินิจ สัจวรรณ นางจรูญ สัจวรรณ ไว้กับโจทก์ที่ 2 รวม 2 ฉบับมีใจความว่าจำเลยขอประกันตัวนายพินิจ นางจรูญผู้ต้องหา โดยสัญญาจะส่งตัวคืนแก่โจทก์ในวันที่ 25 ธันวาคม 2517 ถ้าผิดสัญญาไม่ส่งตัวนายพินิจหรือนางจรูญภายในกำหนดจำเลยยอมชดใช้เงินให้คนละ 50,000 บาท ต่อมาจำเลยผิดสัญญาโจทก์จึงสั่งปรับจำเลยเป็นเงินคนละ 50,000 บาท รวม 100,000 บาทจำเลยไม่ชำระ จึงขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 100,000 บาท กับดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ และให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมค่าทนายความแทนโจทก์

จำเลยให้การรับว่าได้ทำสัญญาไว้กับโจทก์จริงและผิดสัญญาจริงแต่จำเลยได้ติดตามจับนายพินิจ นางจรูญมาส่งโจทก์ได้แล้วในการนี้จำเลยเสียค่าใช้จ่ายไปไม่น้อยกว่า 20,000 บาท ขอให้ลดค่าปรับ

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าปรับสัญญาประกันละ 35,000 บาท รวม 70,000 บาท กับดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้อง จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียมโดยกำหนดค่าทนายความ 800 บาทแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลดค่าปรับ

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ปรับจำเลยสัญญาประกันละ 10,000 บาทรวม 20,000 บาท ค่าทนายความชั้นนี้ให้เป็นพับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาขอให้ปรับจำเลยตามสัญญาประกัน สัญญาละ 35,000 บาท ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นนั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีโจทก์ฟ้องว่า จำเลยผิดสัญญาประกันคนละฉบับ ขอให้ปรับตามสัญญาประกันฉบับละ 50,000 บาท ทุนทรัพย์สำหรับคดีนี้จึงแยกออกตามสัญญาประกันแต่ละฉบับ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ลดค่าปรับลงจากสัญญาละ 35,000 บาทเป็นสัญญาละ 10,000 บาท เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฎีกาของโจทก์จึงเป็นฎีกาดุลพินิจในการลดค่าปรับซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2518 มาตรา 6 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์

Share