แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง ศาลอนุญาตให้ตามวันและเวลาที่ทนายโจทก์ขอ ครั้นถึงวันนัดปรากฏว่าทนายโจทก์มาศาลตัวโจทก์ไม่มาและทนายโจทก์ติดว่าความหลายคดีในศาลเดียวกันแต่มิได้แจ้งเหตุขัดข้องดังกล่าวให้ศาลทราบ ดังนี้ เมื่อทนายโจทก์ไม่เข้าห้องพิจารณาตามกำหนดนัด ก็ถือว่าไม่มาศาลตามกำหนดนัดนั่นเอง ทนายโจทก์จะอยู่ในบริเวณศาลหรือไม่ หาใช่ข้อสำคัญไม่.(ที่มา-ส่งเสริม)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59,91, 353, 354
ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 21 สิงหาคม 2529 แล้วเลื่อนนัดไปวันที่ 4 กันยายน 2529 เวลา 9 นาฬิกา ครั้นถึงวันนัดศาลรอจนกระทั่งเวลา 11.15 นาฬิกา โจทก์และทนายโจทก์ยังไม่มาศาล คงมาแต่ทนายจำเลย ศาลชั้นต้นจึงให้ยกฟ้องโจทก์โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166
ทนายโจทก์ทั้งสองยื่นคำร้องลงวันที่ 16 กันยายน 2529 ว่ามิได้ละทิ้งคดีหรือไม่มาศาลตามกำหนดนัด แต่ทนายโจทก์ติดว่าความในคดีอื่น ขอให้ศาลยกคดีขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของทนายโจทก์แล้วมีคำสั่งยกคำร้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘ทนายโจทก์เป็นผู้ยื่นคำร้องขอให้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 4 กันยายน 2529 เวลา 9 นาฬิกาศาลก็อนุญาตตามขอ โจทก์มีหน้าที่มาศาลตามกำหนดนัดดังกล่าวหากโจทก์มีเหตุขัดข้องประการใด โจทก์ก็ชอบที่จะแจ้งให้ศาลทราบเพื่อขอเลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องไปอีก แม้ทนายโจทก์มีหน้าที่ต้องว่าความหลายคดีในวันนัดดังกล่าว ทนายโจทก์ก็จะต้องหาโอกาสมาที่ห้องพิจารณาคดีนี้ตามกำหนดนัดให้ได้ อนึ่งปรากฏจากทางไต่สวนเองว่าระหว่างเวลา 9.20 นาฬิกาถึง 10.40 นาฬิกา ของวันดังกล่าว ทนายโจทก์นั่งรออยู่ที่ห้องพิจารณาที่ 6 โดยที่ศาลก็ยังมิได้ทำการชี้สองสถานในคดีที่โจทก์ว่าความอยู่ ดังนั้นระหว่างระยะเวลาดังกล่าวทนายโจทก์ย่อมหาโอกาสปลีกตัวไปที่ห้องพิจารณาที่ 14ซึ่งศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีนี้ได้โดยไม่ยาก การที่ทนายโจทก์ไม่หาโอกาสไปที่ห้องพิจารณาคดีนี้ทั้ง ๆ ที่ศาลก็รอโจทก์อยู่จนถึงเวลา 11.15 นาฬิกา และตัวโจทก์ก็ไม่มาศาล เห็นได้ว่าโจทก์ไม่สนใจดำเนินคดีนี้เท่าที่ควรตามพฤติการณ์ยังฟังไม่ได้ว่าโจทก์มีเหตุสมควรจึงมาศาลไม่ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองให้ยกคำร้องของโจทก์เสียนั้นชอบแล้ว ที่โจทก์ฎีกาว่ากรณีนี้ทนายโจทก์มาศาลแต่เข้าห้องพิจารณาคดีไม่ทันตามเวลานัด ไม่ใช่เป็นกรณีที่โจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดนั้น ฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อทนายโจทก์ไม่เข้าห้องพิจารณาตามกำหนดนัด ก็ถือว่าทนายโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดนั่นเอง ทนายโจทก์จะอยู่ในบริเวณศาลหรือไม่ หาใช่ข้อสำคัญไม่ ฎีกาโจทก์ทุกข้อฟังไม่ขึ้น’
พิพากษายืน.