แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยที่ 2 โอนขายสิทธิการเช่าเครื่องโทรศัพท์หมายเลข 2862135ให้ผู้ร้อง ผู้ร้องรับโอนมาโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน แม้จะยังมิได้มีการเปลี่ยนชื่อผู้เช่าจากจำเลยที่ 2 มาเป็นผู้ร้องตามแบบพิธีการขององค์การโทรศัพท์ก็ตาม สิทธิการเช่าเครื่องโทรศัพท์ดังกล่าวย่อมโอนไปยังผู้ร้องตั้งแต่ขณะโอนและส่งมอบ เมื่อโจทก์นำยึดเครื่องโทรศัพท์หมายเลข 2862135ผู้ร้องจึงมีสิทธิร้องขัดทรัพย์.(ที่มา-ส่งเสริม)
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ขอให้บังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดโทรศัพท์หมายเลข 2862135 โดยอ้างว่าเป็นของจำเลยที่ 2
ผู้ร้องขัดทรัพย์ยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ 2 ได้โอนสิทธิการเช่าโทรศัพท์ให้แก่ผู้ร้องแล้ว ขอให้ปล่อยทรัพย์
โจทก์ให้การว่า ขณะนำยึดทรัพย์จำเลยที่ 2 เครื่องโทรศัพท์หมายเลข 2862135 ยังเป็นของจำเลยที่ 2 อยู่ เพราะการโอนยังมิได้รับอนุญาตจากองค์การโทรศัพท์ ผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขัดทรัพย์ ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกคำร้องขอของผู้ร้องขัดทรัพย์
ผู้ร้องขัดทรัพย์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดตามคำร้องขอ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘สิทธิการเช่าเครื่องโทรศัพท์ย่อมมีการซื้อขายโอนเปลี่ยนมือกันได้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้โอนขายสิทธิการเช่าเครื่องโทรศัพท์หมายเลข2862135 ให้ผู้ร้อง และผู้ร้องได้จ่ายเงินจำนวน 14,500 บาทเป็นค่าตอบแทนไปแล้วโดยสุจริตและก่อนที่โจทก์ฟ้องคดีนี้สิทธิการเช่าเครื่องโทรศัพท์ดังกล่าวย่อมโอนไปยังผู้ร้องตั้งแต่ขณะเมื่อจำเลยที่ 2 ได้ส่งมอบเครื่องโทรศัพท์ให้ผู้ร้องและผู้ร้องได้ชำระราคาแล้ว การเปลี่ยนชื่อผู้เช่าเครื่องโทรศัพท์จากจำเลยที่ 2 มาเป็นผู้ร้องเป็นเพียงแบบพิธีการขององค์การโทรศัพท์เพื่อประโยชน์และความสะดวกในการเรียกเก็บเงินค่าเช่าเท่านั้น เมื่อสิทธิการเช่าเครื่องโทรศัพท์หมายเลขที่ 2862135 โอนไปยังผู้ร้องแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิขอให้ยึดสิทธิการเช่าเครื่องโทรศัพท์ดังกล่าวมาชำระหนี้ได้ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น’
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาเป็นพับ.