คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2520/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

จำเลยกับผู้ตายวิวาทชกต่อยกันล.มาห้ามจำเลยจึงหยุดวิวาทกับผู้ตายต่อมาประมาณ2นาทีผู้ตายวิ่งไปเอาไม้ไล่ตีจำเลยอีกจำเลยวิ่งหนีขึ้นไปบนกุฏิสามเณรผู้ตายวิ่งไล่ตามขึ้นไปทำร้ายจำเลยจำเลยแทงผู้ตายเพียงครั้งเดียวด้วยมีดปอกผลไม้ที่เหน็บอยู่ที่ฝาห้องจำเลยไม่มีโอกาสไตร่ตรองว่าจะถูกอวัยวะสำคัญหรือไม่การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ.(ที่มา-ส่งเสิรมฯ)

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ขอ ให้ ลงโทษ จำเลย ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
จำเลย ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288 แต่ ผู้ตาย มี ส่วน ใน การ ก่อเหตุ ด้วย จำคุก 15 ปี คำให้การ ของจำเลย มี ประโยชน์ ต่อ การ พิจารณา นับ เป็น เหตุ บรรเทาโทษ ลดโทษ ให้หนึ่ง ใน สาม ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุก จำเลย 10 ปี
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิจารณา แล้ว เห็น ว่า การ กระทำ ของ จำเลย เป็น การป้องกัน โดย ชอบ ด้วย กฎหมาย พิพากษา กลับ ยกฟ้อง
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ‘ข้อเท็จจริง ฟัง ได้ ว่า จำเลย ใช้ มีดปลายแหลมแทง ผู้ตาย 1 ที ถูก ที่ บริเวณ ขอบ กระดูก ไหปลาร้า ซ้าย ปัญหาวินิจฉัย มี ว่า การ กระทำ ของ จำเลย เป็น การ ป้องกัน ตัว หรือไม่ศาลชั้นต้น วินิจฉัย ว่า จำเลย เข้า ต่อสู้ กับ ผู้ตาย จำเลย แทง ผู้ตายขณะ ที่ ยัง มี การ วิวาท ต่อเนื่อง กัน อยู่ การ กระทำ ของ จำเลย จึงไม่ เป็น การ ป้องกัน ศาลอุทธรณ์ วินิจฉัย ว่า มี ผู้ ห้าม ผู้ตาย กับจำเลย ให้ เลิก วิวาท ต่อสู้ กัน ผู้ตาย กับ จำเลย เลิก กัน ประมาณ2 นาที จำเลย วิ่ง หนี ขึ้น กุฏิ การ ที่ มี คน มา ห้าม และ จำเลย วิ่งหนี ขึ้น กุฏิ นั้น ถือ ได้ ว่า จำเลย เลิก ทะเลาะ วิวาท กับ ผู้ตายแล้ว เมื่อ ได้ ความ ว่า ผู้ตาย วิ่ง ไป เอา ไม้ มา ไล่ ตี จำเลย อีกทั้ง ที่ จำเลย ไป จาก ที่ เกิดเหตุ แล้ว ไม้ ที่ ผู้ตาย ใช้ ตี จำเลยสามารถ ทำ ให้ จำเลย ตาย ได้ และ กลับ ปรากฏ ว่า แขน จำเลย ถูก ผู้ตายตี จน หัก จำเลย ใช้ มีด แทง ผู้ตาย เพียง ครั้งเดียว การ กระทำ ของจำเลย จึง เป็น การ ป้องกัน พอสมควร แก่ เหตุ ข้อ ที่ ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ มี ความเห็น แตกต่าง กัน ศาลฎีกา พิเคราะห์ แล้ว เห็น ว่าประจักษ์พยาน โจทก์ มี สามเณร สมนึก กับ นาย พนม (สามเณรพนม) เบิกความว่า จำเลย กับ ผู้ตาย มี เรื่อง ทะเลาะ กัน จำเลย ผลัก ผู้ตาย ผู้ตายจึง ไป หยิบ ไม้ ลูกกรง ขนาด หน้าตัด กว้าง ราว 5 เซนติเมตร ยาว ราว 1เมตร มา ตี จำเลย จน ไม้ หัก แล้ว เกิด ชกต่อย กอดปล้ำ กัน ก็ มี หลวงตาเล็ก มา ห้าม โดย ใช้ มือ ยืน ทั้งสอง ฝ่าย ไว้ จึง เลิก วิวาท กันประมาณ 2 นาที แล้ว ผู้ตาย ก็ วิ่ง ไป หยิบ ไม้ ลูกกรง ขนาด เดิม มาอีก จำเลย จึง วิ่ง หนี ขึ้น กุฏิ สามเณร สมนึก และ เข้า ไป ใน ห้องผู้ตาย วิ่ง ไล่ ตาม จำเลย เข้า ไป ใน ห้อง แล้ว มี เสียง ตึงตัง ในห้อง ตาม คำเบิกความ ของ สามเณร สมนึก ยัง ได้ ความ อีก ว่า มีด ที่จำเลย ใช้ แทง ผู้ตาย เป็น มีด ใช้ ปอก ผลไม้ ของ สามเณร สมนึก เหน็บไว้ ที่ ฝาห้อง ตาม คำเบิกความ ของ พยานโจทก์ ดังกล่าว ข้อเท็จจริง ฟังได้ ว่า ขณะ ที่ จำเลย กับ ผู้ตาย ทะเลาะ วิวาท กัน จน ชกต่อย กอดปล้ำกัน จำเลย ไม่ มี อาวุธ และ เมื่อ หลวงตา เล็ก มา ห้าม แยก จำเลย กับผู้ตาย จำเลย ก็ หยุด วิวาท กับ ผู้ตาย ผู้ตาย วิ่ง ไป หยิบ ไม้ มาจำเลย ก็ วิ่ง หนี ขึ้น ไป ตาม กุฏิ ของ สามเณร สมนึก พฤติการณ์ แสดงว่า จำเลย ไม่ มี เจตนา ที่ จะ วิวาท กับ ผู้ตาย อีก แล้ว การ ที่ผู้ตาย ถือ ไม้ ไล่ ตี จำเลย ขึ้น ไป บน กุฏิ สามเณร สมนึก ไม่ เป็นการ กระทำ ที่ ต่อเนื่อง กับ การ วิวาท ครั้งแรก แต่ ถือ ได้ ว่าผู้ตาย เป็น ผู้ ก่อ เหตุ ขึ้น ใหม่ ที่ จะ ทำร้าย จำเลย จำเลย จึง มีสิทธิ ที่ จะ กระทำ เพื่อ ป้องกัน ตนเอง ให้ พ้น จาก การ ประทุษร้าย ของผู้ตาย ไม้ ที่ ผู้ตาย ใช้ ตี จำเลย สามารถ ทำ ให้ จำเลย ตาย ได้ การที่ จำเลย ใช้ มีด ปอก ผลไม้ ที่ พบ อยู่ ใน ที่ เกิดเหตุ แทง ผู้ตายเพียง ครั้งเดียว ใน ขณะ ที่ ผู้ตาย ทำร้าย อัน เป็น การ ฉุกเฉินจำเลย ย่อม ไม่ มี โอกาส ไตร่ตรอง ว่า จะ ถูก อวัยวะ สำคัญ หรือไม่ จึงเป็น การ กระทำ ป้องกัน ตัว พอสมควร แก่ เหตุ ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ชอบแล้ว ฎีกา โจทก์ ฟัง ไม่ ขึ้น’
พิพากษา ยืน

Share